svasdssvasds

ย้อนวาทะ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ในวันที่ "พรรคส้ม" หวาน อยากได้โหวต

ย้อนวาทะ เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ที่เคยประกาศชัดว่าจะไม่มีก้าวไกลในรัฐบาล แต่ในวันนี้พรรคส้ม-พรรคประชาชนคือตัวแปรว่าใครจะได้จัดตั้งรัฐบาล!

SHORT CUT

  • ในอดีต พรรคเพื่อไทยเคยประกาศตัดขาดและไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล โดยให้เหตุผลเรื่องการไม่ยอมถอยนโยบายแก้ไข ม.112
  • พรรคภูมิใจไทยเคยมีท่าทีแข็งกร้าวต่อพรรคก้าวไกลในประเด็น ม.112 ถึงขั้นกล่าวหาว่าเป็นพรรคที่เกิดมาเพื่อล้มล้างสถาบันฯ
  • ปัจจุบัน ทั้งพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยกลับเปลี่ยนท่าทีเพื่อเจรจาขอเสียงสนับสนุนจากพรรคก้าวไกลในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

ย้อนวาทะ เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ที่เคยประกาศชัดว่าจะไม่มีก้าวไกลในรัฐบาล แต่ในวันนี้พรรคส้ม-พรรคประชาชนคือตัวแปรว่าใครจะได้จัดตั้งรัฐบาล!

“พรรคก้าวไกลไม่ยอมถอย 112 เพื่อไทยจำเป็นต้องสลายขั้ว ให้ประเทศไปต่อ ไม่ต้องรอ 10 เดือน” และ “การจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในพรรคร่วม” คือคำพูดของนายชลน่าน อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

เป็นการปิดประตูใส่พรรคส้มอย่างสมบูรณ์ ในวันที่ฉีก MOU ไปจับมือพรรคภูมิใจไทย หรือแม้กระทั่งพรรคสองลุง ที่เคยยืนยันตอนหาเสียงว่าจะไม่จับมือเด็ดขาด ก็ทำมาแล้ว

หรือแม้กระทั่งคำพูดของนายทักษิณ ที่กล่าวบนเวทีหาเสียงนายกเทศบาลนครเชียงใหม่ ว่า ที่พรรคส้มตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จโทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเองที่จะเอา 112 อยู่นั่น เลยไม่มีเพื่อน จะโทษคนอื่นได้ไง

 "เป็นคนบ่มีเพื่อนจะโทษคนอื่นได้ยังไง ก็อย่างว่ามันละอ่อน ถามเพื่อไทยยังอยากจะรวมด้วยไหม?" ทักษิณ ชินวัตร กล่าวบนเวทีปราศรัย จ.เชียงใหม่ วันที่ 27 เม.ย. 2568

ย้ายมาดูฝั่งพรรคสีน้ำเงิน ภูมิใจไทย ท่าทีในอดีตก็ไม่ธรรมดา วันแรกที่เปิดสภาเลือกนายกฯ หลังการเลือกตั้งปี 66 แกนนำพรรคอย่างนายชาดา ไทยเศรษฐ ก็ใส่พรรคก้าวไกลไว้ยับๆ เหมือนกัน

คุณชาดา กล่าวแรง ถึงกับบอกว่า นโยบายแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกล และพฤติกรรมของพรรค คือการส่งเสริมให้มีการละเมิดสถาบัน กล่าวหาว่า “พรรคก้าวไกลเกิดมาเพื่อล้มล้าง”

"ผมอยากถามว่าพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกลเกิดมาเพื่อแก้อย่างเดียวคือแก้ 112 เหรอ ถ้าไม่แก้แล้วประเทศจะล่มจมเหรอ ผมดูพฤติกรรมท่าน กูไม่ยอม เหมือนทำให้ผมคิดว่าพรรคนี้เกิดมาเพื่อล้มล้างเหรอ เกิดมาเพื่อแก้อย่างเดียวเหรอ" ชาดา ไทยเศรษฐ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าววันที่ 13 ก.ค. 2556

หรือแม้คำพูดของนายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เคยพูดชัดว่า ถ้ารัฐบาลมีพรรคก้าวไกลอยู่ เขาก็เข้าร่วมไม่ได้ เพราะนโยบายแก้ 112 

แต่ในวันที่พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยแย่งกันเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล  พรรคส้มที่เคยถูกโดดเดี่ยว ก็กลับกลายเป็นคีย์แมนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 

 

ฉะนั้นทำให้เราได้เห็นภาพของภูมิใจไทยและเพื่อไทยที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพื่อใช้เจรจาขอเสียงโหวตจากพรรคส้ม

ทำให้เห็นว่าคำพูดที่ว่า “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” เป็นเรื่องจริงก็เป็นได้ในการเมืองไทย

related