svasdssvasds

กระเป๋าเดินทางหายทำอย่างไรดี พร้อมแนะวิธีป้องกันก่อนสายไป

กระเป๋าเดินทางหายทำอย่างไรดี พร้อมแนะวิธีป้องกันก่อนสายไป

โหลดสัมภาระใต้เครื่องมีความเสี่ยง! กระเป๋าเดินทางหาย! แต่ก็พอจะมีแนวทางการระวังตัวอยู่ สำหรับนักเดินทางกดเซฟคลิปนี้ได้เลย

จากกรณีที่นักแสดงสาว พิม พิมประภา ออกมาเล่าประสบการณ์ว่ากระเป๋าเดินทางที่โหลดไว้ใต้เครื่องบิน โดนงัดแงะมีของแบรนด์เนมหาย และอื่นๆอีกมูลค่ากวว่า 2 แสนบาท แต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือที่น่าพอใจ

คราวนี้ก็คงสร้างความกังวลใจให้กับนักเดินทางไม่น้อยที่เวลาไปต่างประเทศอย่างไงก็คงต้องมีการโหลดสัมภาระใต้เครื่อง ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้อย่างนน้อยก็มาดูแนวทางป้องกันกันดีกว่า

1.ทำสัญลักษณ์กระเป๋าเดินนทาง ให้โดดเด่น แตกต่าง และมีตัวล็อค
เช่นลายสดใส ใช้ผ้าคลุม ใช้สายรัด เพราะจะสามารถทำให้เราเห็นชัด ขโมยอาจจะไม่กล้าหยิบ รวมถึงป้องกันการหยิบผิดแบบไม่ตตั้งใจด้วย ส่วนตัวล็อคอย่างน้อยก็ทำให้โจรมันลำบากขึ้น

2. แท็กติดกระเป๋า ต้องมีเพื่อยืนยันตัวตน
ไม่ว่าจะเช็กอินกับพนักงาน หรือตู้อัตโนมัติ ต้องได้รับแท็กกระเป๋า เท่ากับจำนวนกระเป๋าที่เราโหลดทุกครั้ง จะเป็นใบเล็กๆ บางครั้ง จนท. จะแปะมากับพาสปอร์ต หรือ บอร์ดดิ้งพาส ต้องเช็กให้ดี และที่กระเป๋าก็ต้องดึง แท็กของไฟล์ทเดิมออกด้วยป้องกันการสสับสน

3. ใส่ข้อมูลของเรา หรือข้อมูลการเดินทางไว้ในกระเป๋า
เพราะถ้าเกิดการหยิบสลัย หรือมีข้อผิดพลาด ผู้ที่พบเจอก็จะสามารถหาตัวเราได้ง่ายขึ้น รวมถึงเรายังสามารถมีไว้เพื่อยืนยันตัวตนได้อีกด้วย

4.ถ่ายรูปกระเป๋า พร้อมใส่เครื่องมือติดตาม
การถ่ายรูปถ่ายทั้งภายนอกและภายในโดยเฉพาะของที่เรากังวลว่าจะหายเผื่อไว้ตอนตามหาจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ง่าย ส่วนเครื่องมือติดคาม พวก Air tag อาจจะช่วยได้ในกรณีที่กระเป๋าเรามีเหตุขัดข้อง แต่ถ้าเจอโจร ก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี 
 

5. ไม่โหลดของมีค่าใต้ท้องเครื่อง
พยายามนำของมีค่าติดตัวขึ้นไปบนเครื่องจะดีที่สุด และคุณสามารถเพิ่มความสบายใจด้วยการซื้อประกันการเดินทางที่คลอบคลุมเรื่องกระเป๋า แต่ยอดเงินที่ได้มาคงไม่ cover ของทั้งหมดแต่อย่างน้อยก็ช่วยบรรเทาได้

6. รีบเดินไปให้ถึงสายพานรับกระเป๋าเร็วที่สุด
แต่เรื่องนี้เราก็คาดเดาอะไรไม่ได้ เพราะบางทีแถว ตรวจคนเข้าเมืองยาวเหลือเกิน

ในกรณีถ้ารู้ว่ากระเป๋าเราหายไปแน่ๆ ก็ทำตามขั้นตอนนี้ได้เลย
1. ให้ แจ้งเรื่องที่เคาน์เตอร์ Lost & Found หรือแจ้งกับเคาน์เตอร์ของสายการบินที่เราใช้บริการ
2. แสดงหมายเลข tag ติดกระเป๋าพร้อมรูปกระเป๋า (หากมี) พร้อมตั๋วเดินทาง และพาสปอร์ตเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นหลักฐานยืนยันตัวตัว ยืนยันความเป็นเจ้าของ
3. ทางสายการบินจะออก PIR (Property Irregularity Report) ให้ ในนั้นจะมีหมายเลข reference number ซึ่งสำคัญมาก (ถ้ากลัวหายถ่ายรูปไว้) เพราะทางเจ้าหน้าที่จะใช้เลขนี้ดึงข้อมูลจากในระบบได้ ตัวอย่างของ reference number จะมีเหมือนกันทั่วโลกคือ STATION/AIRLINE/Case number 

เราก็รอต่อไปว่าเราจะได้คืนหรือไม่ แต่ทางสายการบินจะมีระยะเวลาที่ตามหากระเป๋ษเพียง 21 วันเท่านั้น หลังจากนั้นทางสายการบินจะถือว่ากระเป๋าใบนั้นได้สูญหายจริง และจะดำเนินเรื่องชดใช้ค่าเสียหายให้และแน่นอนเขาจะตีราคาออกมาต่ำกว่าราคาจริง ซึ่งเค้าถือว่าเป็นของที่ใช้แล้ว แต่ถ้าคุณเพิ่งไป Shopping มา ก็นำใบเสร็จไปแสดงว่ามีอะไรบ้างมูลค่าเท่าไหร่ แต่ก็มันจะได้น้อยกว่าความเป็นจริง