รวมดราม่า มงคลกิตติ์ กับวาทะกรรมที่อาจนำไปสู่การล่าชื่อถอดถอน

การกล่าวถึง มงคลกิตติ์ ที่เป็นที่วิพากย์วิจารณ์กันมากนั้น เกิดขึ้นภายหลังมีความชัดเจนแล้วว่า มงคลกิตติ์ จะเข้าร่วมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรค พปชร. ลำพังท่าทีเพียงเท่านี้ ก็คงไม่สร้างปรากฎการณ์ตามล้างตามเช็ดในโลกโซเชี่ยล แต่เพราะคารมคมปาก ที่ มงคลกิตติ์ พรั่งพรูออกมาไม่หยุด แม้วันที่มีพิธีขอขมาคณาจารย์จากสถาบันที่ตนเองศึกษามา ก็ยังปรากฎคำให้สัมภาษณ์ที่พาให้โลกโซเชี่ยลออกมากระทืบไลค์ซ้ำซ้อนหนักขึ้นไปอีก รวมถึงท่าทีของบรรดาศิษย์ปัจจุบันที่ออกมายือออ รอต้อนรับ รอส่ง มงคลกิตติ์ อย่างหนาแน่นบริเวณหน้าตึกภายในพื้นที่สถานศึกษาด้วยท่าทีที่ใครก็รู้ว่า “ไม่พอใจ”

แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ต้องย้อนที่มากันก่อนว่าดราม่า บังเกิดได้อย่างไร เรื่องราวก็มีอยู่ว่า หลังเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า มงคลกิตติ์ ได้เป็น ส.ส. แล้วมีท่าทีว่าจะยืนอยู่ข้างพรรค พปชร. ก็มีคนไปย้อนความตัดคลิปเก่าๆสมัย มงคลกิตติ์ หาเสียง ซึ่งเหมือนจะกลับด้านกับในปัจจุบันอย่างชนิด ดำ กับ ขาว เพราะก่อนหน้านั้นช่วงหาเสียง มงคลกิติ์ ยืนยันหนักแน่นว่า ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เวลาผ่านไปหลังได้เป็น ส.ส. ท่าทีก็เปลี่ยนไป ออกตัวชัดเจนขอร่วมหัวจมท้ายกับพรรค พปชร.และหนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อให้ได้ ดราม่าจึงเริ่มบังเกิด

อาจจะด้วยความหมั่นไส้ ของชาวเน็ตที่มีขั้นค่ายทางการเมือง และจากท่าทีที่เปลี่ยนไปดังกล่าวของ มงคลกิตติ์ ในเวลาต่อมาไม่นาน ก็เกิดการปล่อยคลิปการไลฟ์สดของ มงคลกิตติ์ ที่เนื้อหาเป็นการเล่าเรื่องราวการทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้สมัยเรียน โอ้อวดว่าเป็นหัวโจก เปิดงานการตีรันฟันแทง สารพัดจะพ่นผ่านไมค์ไลฟ์สดให้คนดู แต่ทว่า เนื้อหาบางช่วงบางตอนนั้นไปกระทบสถาบันการศึกษาเก่าที่ มงคลกิตติ์ เรียนจบมา จึงเกิดกระแสความไม่พอใจอย่างหนักตามมาติดๆ ถึงขั้นนักการเมือง ส.ส.หน้าใหม่บางคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงเวทีมวยมาก่อน ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กประมาณว่า สภาฯใกล้เปิดแล้ว มีอะไรจะฝากถึง"ไอ้แว่น" หรือไม่ ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ตีความหมายคำว่า "ไอ้แว่น" ไปต่างๆนาๆ โดยที่มาของคลิปนี้ มงคลกิตติ์ ออกมาอธิบายแล้วว่าเป็นคลิปเก่าที่เคยพูดเมื่อช่วงหาเสียง แต่ถูกนำมาตัดทอนแล้วเอามาเผยแพร่ซ้ำในช่วงนี้

ระหว่างที่เรื่องดังกล่าวดำเนินไปนั้น ในช่วงวันที่ 13 พ.ค. เหล่าพรรคเล็กที่รวมตัวกันสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลของ พรรค พปชร. และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี นั้น มงคลกิตติ์ ก็คว้าไมค์ในงานไปแถลงข่าวโดยสรุปเหตุผลที่มายืนอยู่ข้าง พรรคพปชร. ว่า เป็นความจำเป็น เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ ไม่ต้องการให้เกิดการต่อรองกันของพรรคการเมืองจนทำให้บ้านเมืองเสียโอกาส และขอผ่าทางตันทางการเมืองนี้

วาทะเด็ดอยู่ตรงนี้ ...” “ในการเจรจาต่อรองขั้นต่อไปของพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ผมขอร้องครับ อย่าต่อรองเยอะฮะ มาร่วมมือกันทำงานนะฮะ มันเสียเวลานะฮะ เพราะว่าเลือกตั้งมาเกือบ 2 เดือนแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นหาคนที่มีคุณภาพมาคุยกันนะฮะ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันแล้วเดินไปข้างหน้า แต่ฝ่ายค้านไม่ว่าจะเป็นพรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อไทย ไม่ต้องเสียใจครับ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มความสามารถ ผมยังเป็นอีกหนึ่งคนที่จะไปช่วยพวกท่านในการตรวจสอบ ถ่วงดุล พรรคพลังประชารัฐ ในการบริหารราชการแผ่นดินในครั้งนี้”

ด้วยถ้อยคำการพูดการจาดังกล่าว ประกอบกับเชื้อไฟที่โหมมาก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจ มงคลกิตติ์ ตามมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ มีการตัดคลิป เขียนการ์ตูน ใช้วลีเด็ด เปรียบเทียบ ล้อเลียน วิพากย์วิจารณ์กันในหลากหลายรูปแบบ บ้างก็ว่า ด้วยเหตุแบบนี้ ทำให้ประชาชนเชื่อคำพูดนักการเมืองน้อยลงทุกที

กระทั่งถึงวันที่ 21 พ.ค. เป็นจุดที่เหมือนว่าเรื่องจะมีทิศทางที่อ่อนลง เนื่องจาก มงคลกิตติ์ จะเข้าไปขอขมาคณาจารย์ที่สถาบันการศึกษาเก่าของตนเองโดยยอมรับผิดและขออภัยที่ทำให้สถาบันเสื่อมเสียชื่อเสียง การขอขมาก็ดำเนินไปตามขั้นตอนต่างๆตามปกติ แต่เมื่อถึงช่วงที่ผู้สื่อข่าวขอสัมภาษณ์ มงคลกิติ์ ก็ใช้เวทีดังกล่าวสร้างวาทะกรรมใหม่ของตนเองอีกครั้ง ด้วยการกล่าวว่า การทำงานของรัฐบาลหน้าถ้ามีตนเองอยู่ด้วย พรรคฝ่ายค้านจะทำหน้าที่น้อยลง เนื่องจากจะไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นเพราะมีตนเองร่วมรัฐบาลอยู่ด้วย

ถ้อยคำดังกล่าว เมื่อประกอบรวมกับท่าทีทางการเมืองก่อนหน้านี้ อาจทำให้เกิดความไม่พอใจของคอการเมืองในขั้วตรงข้ามอยู่บ้าง เนื่องจากฟังดูแล้วเหมือนเป็นการยกสรรพคุณตนเองอย่างที่สมัยนี้เขาเรียกว่า โอเว่อร์แอคชั่น หรือ เยอะ ขณะที่ก็ต้องรับความเป็นจริงอย่างหนึ่งด้วยว่า เรื่องของการเมือง เป็นเรื่องที่ผู้คนมีความเห็นที่แตกต่าง มีความเชื่อมั่น ความศรัทธาที่แตกต่างกัน การกระทบกระเทียบ แดกดัน ประชดประชัน ก็มีโอกาสที่จะนำพามาซึ่งความเกลียดชังได้อีกเช่นเดียวกัน

นั่นเรื่องของการเมือง แต่ในวันนั้นไม่ใช่มีแค่เรื่องคำพูดดังกล่าว ภาพที่ปรากฎเป็นข่าวในช่วงการเดินทางกลับออกมาจากสถาบันนั้น ใครที่ได้ดูจะเห็นว่ามีกลุ่ม น.ศ.ปัจจุบันของสถาบัน มายืนดักรอ มงคลกิตติ์ อยู่จำนวนมาก เมื่อทราบว่าเดินทางออกมาด้วยรถเบนซ์สีดำ ต่างก็ตะโกนบอกต่อกันเป็นช่วงๆว่ารถคันไหน เมื่อรถคันดังกล่าวเคลื่อนผ่าน ก็มีเสียงโห่ร้องตามไล่หลังไปติดๆ

ล่าสุดวันนี้ วันที่ 23 พ.ค. เฟซบุ๊ก คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ.Faculty Engineering Kmutnb ได้โพสต์ข้อความว่า ทางศิษย์เก่า นำโดย นายมานพ มานะสกุลกิจ นายกสมาคมศิษย์เก่าวิศวกรรมศาสตร์ มจพ.จะตั้งโต๊ะแถลงเตือนนายมงคลกิตติ์ หวังให้สำนึกผิด กลับตัว และกระทำในสิ่งที่สมควร ในวันที่ 23 พ.ค.เวลา10.00 น.ที่ ห้องประชุมวิจิตรวาที คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ.

โดยกรณีพฤติกรรมของนายมงคลกิตติ์ที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับ มจพ. แม้จะมีการทำพิธีขอขมาและกล่าวคำขอโทษ แต่ยังไม่สะท้อนถึงความรับผิดชอบสถาบันการศึกษาและการกระทำต่อสาธารณะ อีกทั้งในฐานะที่นายมงคลกิตติ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งต้องเป็นตัวอย่างที่ดี และเหมาะสม ถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ขณะที่ทางด้านศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน มจพ. นั้น มีรายงานว่าจะมีการแสดงพลังและรวบรวมรายชื่อเพื่อถอดถอน มงคลกิตติ์ ออกจากตำแหน่ง ส.ส.ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :ศิษย์เก่า มจพ.ประณาม" มงคลกิตติ์" ล่าชื่อถอดถอนจาก ส.ส.