svasdssvasds

โร่แจ้งความถูกโซเซียลรุมด่าขโมยหมา

โร่แจ้งความถูกโซเซียลรุมด่าขโมยหมา

สาวโรงงานเสียความรู้สึก ตั้งใจทำความดีช่วยเหลือน้องหมา แต่ถูกโพสต์ด่าว่า “ขโมยหมาวัด ” โร่แจ้งความ-ร้องสื่อ ขอความเป็นธรรม ยืนยันไม่ได้ขโมย

วันนี้ (7 ก.ค. 63) ที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ น.ส.เสาวลักษณ์ ขันทอง อายุ 24 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง เข้าขอแจ้งความและลงบันทึกประจำวันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ชี้แจงข้อเท็จจริง ขอความเป็นธรรม หลังถูกโลอกออนไลน์ รุมกล่าวหาว่าได้ขโมยสุนัขจากวัดผาลาด ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ไปเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 63

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 63 ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง โพสต์ตามหาสุนัขพันธุ์เฟรนบลูด็อก จำนวน 2 ตัว ได้หายไปจากวัดผาลาดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 63 โดยมีหญิงสาวสองคนนำตัวขึ้นรถไปด้วย พร้อมทั้งนำภาพมาหญิงสาวสองคนโพสต์ประกอบ หลังจากนั้นก็มีสื่อนำไปเสนอในสื่อออนไลน์ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์โจมตีกล่าวหาว่าหญิงสาวทั้ง 2 คนเป็นจำนวนมาก ว่าเป็นผู้ที่ขโมยหมาของวัด

น.ส.เสาวลักษณ์ ขันทอง กล่าวว่า วันนี้มาแจ้งความและขอลงบันทึกประจำวัน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ชี้แจงข้อเท็จจริง หลังถูกกล่าวหาจนเสียหาย ว่าเป็นคนใจบาปเรื่องราวในวันที่พบสุนัขคือ ตัวเอง แฟน และพี่สาว ไปเที่ยวบนดอยสุเทพ ระหว่างทางกลับ ได้เห็นขโมยสุนัขของวัด โดยว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจอดรถแล้วโบกมือเรียกจึงจอดถามคิดว่ารถเสีย

จึงพบว่ามีสุนัขพลัดหลง เป็นพันธุ์เฟรนบลูด็อก เป็นสุนัขที่มีราคาค่อนข้างสูง ที่ทราบเพราะว่าเป็นคนชอบเลี้ยงสุนัขอยู่แล้ว จึงสังเกตว่าสุนัขไม่มีปลอกคอ ก็เลยไม่ทราบว่าเป็นสุนัขของใคร จึงอาสารับไปเลี้ยงไว้ก่อน หากมีเจ้าของติดต่อมาก็จะคืนให้ โดยมี น.ส.ปรียาพร ศรีบานเรือง และนายประเสริฐ แซ่ท้าว ซึ่งเป็นผู้พบคนแรก ช่วยโพสต์ตามหาเจ้าของด้วย

แต่มาถึงเมื่อวานนี้ กลับพบว่ามีการโพสต์ตามหาสุนัขพร้อมทั้งด่าทออย่างหยาบคาย จึงได้ติดต่อคืนสุนัขให้ และขอให้ลบโพสต์ เพราะไม่ได้โขมย แต่ทางเจ้าของโพสต์ กลับไม่ยอมลบและบอกว่า ไม่ได้ว่าใคร หลังจากนั้น ก็มีสื่อบางสื่อนำข่าวไปนำเสนอ ทำให้ในโลกออนไลน์มารุมด่า จนเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและความดีที่สะสมมา

ด้านร.ต.ท.หญิง ณิชา แพงไทสง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันเอาไว้ แต่ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรไป แค่รับลงบันทึกประจำวันเอาไว้ตามระเบียบ

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม เจ้าของเฟสบุ๊ค และเป็นเจ้าของสุนัข กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าจบแล้ว ที่โพสต์ไปทั้งหมด ไม่ได้ไปกล่าวหาใคร แค่โพสต์ตามหาสุนัข ส่วนเรื่องปลอกคอ พระที่วัดบอกว่าตอนที่เจอสุนัขในวัดยังมีปลอกคอ แต่จะไปหายตอนไหน ก็ไม่ทราบเหมือนกัน

ได้สุนัขคืน ถือว่าสิ้นสุดเรื่องราวแล้ว ส่วนที่ทางน้องผู้หญิงบอกว่าเสียหายจากโพสต์และโดนโลกโซเชียลด่า ก็ให้น้องไปดำเนินการแจ้งความกับคนโซเชียลเอง ไม่เกี่ยวข้อง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ ก็ว่ากันไปตามนั้น

related