ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ สั่งคุมเข้ม ดูแลใกล้ชิด 14 วัน หลังนักการเมือง-ข้าราชการ-ลูกจ้างท้องถิ่น 5 ราย กลับจากญี่ปุ่น เบื้องต้นไม่มีอาการป่วยเป็นไข้หรือไข้หวัด
จากกรณีนายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ มอบหมายให้นายแพทย์อายุส ภมะราภา ผอ.โรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ ส่งทีมแพทย์ไปทำการตรวจและติดตามอาการ นักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการในระดับผู้บริหาร ของ อบจ.อุตรดิตถ์ พร้อมทั้งลูกจ้าง 1 ราย ของเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ และ พยาบาลของโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ รวมทั้ง 5 ราย หลังจากทั้งหมด เพิ่งเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องคอยติดตามว่า ได้รับเชื้อของโรคโควิด-19 หรือไม่ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ถูกขึ้นบัญชีเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว
นายธนากร กล่าวว่า สำหรับผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น 5 ราย ขอความร่วมมือให้อยู่ที่บ้านของตัวเอง เป็นการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด 14 วัน ซึ่งทางแพทย์รายงานผลเบื้องต้น ยังไม่พบว่า มีอาการเป็นไข้หรือมีอาการที่มีลักษณะคล้ายกับไข้หวัดแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ สสจ.อุตรดิตถ์ ประกาศขอความร่วมมือหน่วยงานราชการเอกชน และประชาชน เลื่อนหรืองดการเดินทางไปในประเทศที่มีความเสี่ยง
โดยขณะนี้ประเทศกลุ่มเสี่ยง คือ จีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่านส่วนผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ขอให้ปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้
1.เฝ้าระวังตัวเองเป็นเวลา 14 วัน
2.งดไปในที่ชุมชน
3.งดใช้ขนส่งสาธารณะ
4.ทันทีที่มีอาการป่วยจะต้องใส่หน้ากากอนามัย รีบไปตรวจที่สถานพยาบาล และจะต้องแจ้งประวัติตามความเป็นจริง ห้ามปกปิดข้อมูล
ล่าสุด บรรยากาศที่ อบจ.อุตรดิตถ์ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และพนักงาน ที่เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ต่างตระหนักถึงการป้องกันตนเอง ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยทุกคน และตามจุดต่างๆ มีเจลล้างมือไว้บริการ พร้อมทั้งมีการจัดกิจกรรม Big Cleaning ทุกๆ ส่วนงาน ขณะเดียวกันตามโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ที่มีนักเรียนจำนวนมาก ได้เข้มงวดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีการตรวจวัดไข้นักเรียนทุกเช้าก่อนเข้าโรงเรียน ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย จัดให้มีเจลล้างมือแอลกอฮอล์ ความเข้มข้น 95% ในทุกห้องเรียน สวมหน้ากากอนามัยและไม่อนุมัติให้นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียน ลาเพื่อเดินทางไปหรือแวะผ่านประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด -19