svasdssvasds

พฤติกรรมสุขภาพปลอม ๆ ที่เราคิดว่าดี ทําไปอาจไม่เวิร์ค

พฤติกรรมสุขภาพปลอม ๆ ที่เราคิดว่าดี ทําไปอาจไม่เวิร์ค

พูดถึงการดูแลสุขภาพ เป็นสิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เพราะแต่ละปีทุกคนต่างตั้งเป้าหมายการเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การเรื่องงาน เป้าหมายการใช้ชีวิต รวมถึงการมีสุขภาพดีด้วย

รู้ไหมว่าหากอยากดูแลสุขภาพแต่กลับมีความเข้าใจที่ไม่ถ่องแท้ วิธีการเหล่านั้นก็แทบเปล่าประโยชน์ เผลอๆ จะเสียสุขภาพอีกด้วยคําแนะนําของพีท แมคคอล เทรนเนอร์มืออาชีพ และมิเชลโอลสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสรีรวิทยาการออกกําลังกายจากมหาวิทยาลัยออเบิร์น ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ระบุถึงพฤติกรรมสุขภาพผิดๆ ที่หากคุณทําอยู่ จงหยุดเสียเดี๋ยวนี้

พฤติกรรมสุขภาพปลอม ๆ ที่เราคิดว่าดี ทําไปอาจไม่เวิร์ค

1.ใช้สมาร์ทโฟนขณะออกกําลังกาย

ปกติแล้วการใช้ฟังก์ชันบนสมาร์ทโฟนอย่างชาญฉลาดย่อมมีผลดี แต่หากคุณคือคนที่ไม่ยอมละสายตาจากหน้าจอ เช่น หยิบขึ้นมาดู เช็กข่าวสาร    แชตอยู่ตลอดเวลาแม้จะอยู่บนเทรดมิลล์ นั่นแปลว่าความสนใจของคุณถูกดึงดูดไปผิดจุด ทําให้คุณใช้เวลากับการออกกําลังกายได้ไม่เต็มที่

2.อยู่กับกิจกรรมเดิมๆ ติดต่อกัน

การเข้าฟิตเนสแล้วเล่นแต่เครื่องบริหารชนิดเดิมๆ จะทําให้ร่างกายของคุณรู้จักแต่การขยับเขยื้อนแบบเดิมๆ กระตุ้นกล้ามเนื้อในจุดเดิมๆ ดังนั้นควรทํากิจกรรมให้หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายทุกส่วนได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ความเครียด" ส่งผล DNA แก่ไว สาเหตุเกิดโรคเพียบ

ไม่ไหว ‘อย่า’ ฝืน รวมอาการต่าง ๆ ที่ควรพบจิตแพทย์

BURNOUT SYNDROME อย่ารอให้หมดไฟในการทำงาน

3.อยู่แต่บนโซฟาในวันพักผ่อน

การเอาแต่นอนดูทีวีอยู่บนโซฟาจะทําให้ร่างกายไม่ได้ขยับเขยื้อนส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจไม่สูงพอ ระบบเผาผลาญพลังงานต่างๆ ก็เฉื่อยชาไปด้วย จึงควรเปิดโอกาสให้ร่างกายได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าสะสมจากการทํางานด้วยการออกไปทํากิจกรรมเพื่อให้ร่างกายได้ยืดเหยียด และหัวใจได้ทํางานอย่างมีประสิทธิภาพ

4.โฟกัสแต่จุดที่มีปัญหา

หลายคนมัวแต่บริหารหรือให้ความสนใจรูปร่าง เฉพาะส่วนที่อยากให้ดูดีที่สุดแต่กลับลืมว่ารูปร่างที่ดีมาจากภาพลักษณ์ของร่างกายโดยรวม ดังนั้นการให้ความสําคัญกับภาพในมุมที่กว้างขึ้นจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เช่น โฟกัสร่างกายช่วงบนทั้งหมดไปเลย

5.วอร์มอัพก่อนการยืดเหยียด

การยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนการวอร์มอัพจะทําให้กล้ามเนื้อเกิดการตึงตัวและอาจเกิดอาการบาดเจ็บหรือทําให้ออกกําลังกายได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทางที่ดีควรเคลื่อนไหวร่างกายก่อน เช่น การแกว่งแขน ไปมา การซอยเท้าอยู่กับที่เพื่อวอร์มอัพร่างกายจะเป็นวิธีที่ถูกต้องและสนับสนุน ให้คุณออกกําลังกายได้ดียิ่งขึ้น

6.ไม่สนใจเวลาอาหาร

คนที่ลดน้ำหนักมักละเลยเวลากิน หรือพยายามกินให้น้อยที่สุด แต่หารู้ไม่ว่าชนิดอาหารและเวลาในการกินมีส่วนสําคัญอย่างมาก มีงานวิจัยระบุว่า หากกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตก่อนการออกกําลังกายที่ต้องใช้แรงต้านจะช่วยยืดเวลาการออกกําลังกายได้ และหากกินหลังออกกําลังกายภายใน 1 ชั่วโมงจะช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์โปรตีนได้ดียิ่งขึ้นด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์และการมีสุขภาพจิตที่ดี ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณสามารถสัมผัสกับความสุขที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่มันยังเป็นแหล่งกำเนิดของความสุขด้วยตัวของมันเอง และมันคงไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอะไรถ้าคุณจะหันมาใส่ใจกับสุขภาพเสียแต่บัดนี้ เพื่อที่คุณจะได้มีความสุขได้มากขึ้นในทุกวันที่ผ่านไป

ที่มา : นิตยสารชีวจิต

related