Jurlique Rosewater Balancing Mist รุ่น Exclusive Edition ต้อนรับช่วงสายฝนโปรย

โดยกลิ่นและสูตรใหม่นี้ประกอบด้วยกุหลาบ Rosa gallica, Rosa centifolia, Rosa damascena, Rosa canina และ Rosa rugosa ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยมีการใช้ในสูตรของเจอร์ลีคมาก่อน

มิสท์สูตรใหม่นี้มีความเบาสบาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเติมความชุ่มชื่นแก่ผิว อีกทั้งสารสกัดจากดอกกุหลาบทั้ง 5 สายพันธุ์นั้นยังให้ความชุ่มชื้นและกลิ่นหอมที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและผ่อนคลาในคราเดียวกัน 

เพียงฉีดพรมเบาๆ ก็เห็นผลลัพธ์:

- บำรุงผิวให้เนียนนุ่มและฉ่ำวาว

- ฟื้นบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น พร้อมอบความรู้สึกสมดุล และสดชื่น

- ยกกระชับและเติมพลังด้วยกลิ่นกุหลาบอันเป็นเอกลักษณ์

- ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ในแต่ละวัน

โดยสามารถใช้มิสท์รุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งในการปรนนิบัติผิวหลังทำความสะอาด และก่อนลง Activating Water Essence และเซรั่ม หรือใช้ฉีดพรมระหว่างวัน เพื่อเติมความชุ่มชื้นและสดใสให้แก่ผิว

สัมผัสประสบการณ์ที่ได้จากกุหลาบ 5 สายพันธุ์

ทุกครั้งที่ฉีดพรม Rosewater Balancing Mist รุ่น Exclusive นี้ คุณได้รู้สึกราวกับได้เดินทางไปยังฟาร์มเจอร์ลีค ในเมืองแอดิเลด ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย

การผสมผสานอันเป็นเอกลักษณ์ ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมหวานของกุหลาบ ช่วยปลุกความรู้สึกให้รื่นรมย์และสัมผัสถึงความสงบแห่งธรรมชาติ ด้วยสารสกัด Bio-Intrinsic™ จากฟาร์มเจอร์ลีค ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกดอกกุหลาบทั้ง 5 สายพันธุ์ ได้แก่ Rosa gallica, Rosa centifolia, Rosa damascena, Rosa canina และ Rosa rugosa สร้างกลิ่นหอมใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากช่อดอกไม้อันสดชื่น

นอกจากกลิ่นหอมของกุหลาบแล้ว ยังประกอบด้วยกลิ่นของลิ้นจี่, เจอเรเนียม, ลีฟฟี่ แอคคอร์ด, พีโอนี่, ฟรีเซีย, แบล็คเบอร์รี่, แพทชูลี่, กุหลาบซีดาร์วูด, พัลมาโรซา, ลิลลี่แห่งหุบเขา, อบเชย และโอ๊ค มอส อีกด้วย

ประโยชน์หลักของดอกกุหลาบห้าสายพันธุ์

สารสกัด Bio-Intrinsic™ เฉพาะจากฟาร์มเจอร์ลีค ทำให้เราได้ค้นพบวิธีรวบรวมคุณประโยชน์ที่ยอดเยี่ยมทั้งหมดไว้ด้วยกัน

ความชุ่มชื้น – มอบความชุ่มชื้นแก่ผิวทันทีที่ใช้ตลอดทั้งวัน ทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นผิวเนียนนุ่มและฉ่ำวาว

ฟื้นฟู – คืนความชุ่มชื้นและกักเก็บน้ำให้แก่ผิว ทำให้ผิวสัมผัสได้ถึงสมดุลและความสดชื่น

ให้ความสดชื่น - มอบความสดชื่นและเติมพลังด้วยกลิ่นหอมของดอกกุหลาบอันเป็นเอกลักษณ์

ปกป้อง – สารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติช่วยป้องกันและปกป้องผิวจากมลภาวะในชีวิตประจำวัน

ดอกกุหลาบห้าสายพันธุ์ Exclusive Edition Mist ประกอบด้วยดอกกุหลาบ 5 สายพันธุ์ในสูตรเดียว

สารสกัดจากกุหลาบ Rosa gallica – ดอกกุหลาบป่าที่มีกลิ่นหอมฉุน และมีเฉดสีหลากหลาย ช่วยให้ความชุ่มชื้น เนียนนุ่ม และคืนความสมดุลให้ผิว

สารสกัดจากกุหลาบ Rosa canina – ดอกกุหลาบสีขาวที่สวยงามซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องคุณสมบัติในการปรับสภาพสีผิวและยกกระชับนับเป็นครั้งแรกที่เราได้ปลูกและใช้ Rosa canina จากฟาร์มมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์

สารสกัดจากกุหลาบ Rosa centifolia – ดอกกุหลาบนี้เป็นสายพันธุ์ไฮบริดที่เรียกกันทั่วไปว่า กุหลาบกะหล่ำปลี เนื่องจากมีดอกบานใหญ่และมีกลีบดอกซ้อนกันหลายชั้นคล้ายกับกะหล่ำปลี Rosa centifolia มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวอ่อนนุ่มและผ่อนคลายยิ่งขึ้น

สารสกัดจากกุหลาบ Rosa damascena - เป็นดอกกุหลาบประดับที่มีชื่อเสียงด้านกลิ่นหอม สารสกัดจากกุหลาบพันธุ์นี้จะช่วยเป็นเสมือนครีมนวดให้แก่ผิว ทำให้ผิวนุ่มและผ่อนคลายยิ่งขึ้น

สารสกัดจากกุหลาบ Rosa rugosa - ดอกกุหลาบนี้ขึ้นชื่อในด้านกลิ่นหอมและนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากมลภาวะแวดล้อม นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เพาะและใช้ Rosa rugosa จากฟาร์มมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์

การปลูกพืชแบบ Biodynamic ต่างจากการปลูกพืชแบบออร์แกนิกอย่างไร?

ระบบการปลูกแบบออร์แกนิกนั้นจะทำให้ได้พืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย แต่ระบบการปลูกแบบ biodynamic นั้นพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น เพราะระบบแบบ biodynamic นั้นช่วยรักษาให้ผืนดินยังคงสภาพเดิมและยึดเวลาการปลูกและการเก็บเกี่ยวตามหลักทางโหราศาสตร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับบนปฏิทินพิเศษกำหนดไว้

การเกษตรแบบออร์แกนิกนั้นนิยามได้จากการใช้ปุ๋ยออร์แกนิกในการปลูก ขณะที่การเกษตรแบบ biodynamic ยึดติดกับทฤษฎีที่กล่าวมาข้างต้น การเกษตรแบบออร์แกนิกนั้นมีการใช้ปุ๋ยที่ผลิตจากภายนอก หากเป็นการเพาะปลูกแบบ Biodynamic จะเลือกใช้ปุ๋ยที่ผลิตเองจากภายในฟาร์มให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมทั้งปลูกพืชหมุนเวียนโดยไม่นำพืชชนิดอื่นเข้ามาปลูก พร้อมทั้งทำการเตรียมดินให้มีบริสุทธิ์และอยู่ในสภาวะสมบูรณ์ที่สุดก่อนการเพาะปลูก เพื่อให้พื้นที่ในฟาร์มมีบรรยากาศที่ส่งผลดีแก่พืช ช่วยให้พืชมีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายและมีคุณภาพที่ดีที่สุดเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว

Our founders – “ความฝันของเราคือการเชื่อมโยงผู้คนให้กลับไปสู่ธรรมชาติ ซึ่งการเชื่อมโยงนั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับเราในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง” Ulrike Klein, ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Jurlique