เหยื่อบ้านล้านหลังเชียงใหม่ ร้องถูกเบี้ยวสัญญา

วันนี้ (10 ก.ย. 62) ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มประชาชนผู้ที่ได้รับความเสียหายจากโครงการบ้านล้านหลัง ประมาณ 30 คน เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอให้ช่วยเหลือหลังจากที่โครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ที่เข้าโครงการบ้านล้านหลัง ไม่ทำตามข้อตกลงที่ได้ทำสัญญาไว้ โดยมีนายเอกราช รังสรรค์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม รับเรื่องและจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ว่าที่ ร.ต.ฐนิภณ สังข์ปักษา ทนายความ ซึ่งอาสาดูแลเรื่องคดีความให้กับกลุ่มผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือกับผู้เสียหาย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย สืบเนื่องจากในช่วงปีที่ผ่านมาทางรัฐบาล ได้มีนโยบายทำโครงการบ้านล้านหลัง เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีโอกาสมีบ้านเป็นของตนเอง เป็นโครงการที่ดำเนินการผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ทั่วประเทศ ผู้มีรายได้น้อยจึงเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ในจังหวัดเชียงใหม่มีโครงการบ้านจัดสรรเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละโครงการได้ผ่านการตรวจสอบจากธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้ว ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน

ในจำนวนโครงการบ้านจัดสรรที่เข้าร่วมโครงการมี 1 แห่ง ที่เปิดให้ผู้มีรายน้อยเปิดรับจองสิทธิ์ ใน 2 ทำเล ในจังหวัดเชียงใหม่ และ ลำพูน โดยผู้จองสิทธิ์ต้องชำระค่าจองจำนวน 1,000 บาท และ ค่าทำสัญญาจำนวน 29,000 บาท ซึ่งมีผู้สนใจจำนวนมากเข้าไปใช้สิทธิ์จองในโครงการดังกล่าว หลังจากนั้นทางโครงการได้ประกาศยกเลิกโครงการที่จังหวัดลำพูน และขอให้ผู้จองสิทธิ์ย้ายมาใช้สิทธิที่จังหวัดเชียงใหม่ โครงการระบุที่ตั้งอยู่ที่ บริเวณหลังโรงเรียนห้วยเกี๋ยง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยจะคืนเงินให้กับผู้ที่ไม่ย้ายมาใช้สิทธิ โดยโครงการมีกำหนดการก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 แต่ไม่มีการดำเนินการ และแจ้งผู้เสียหายทราบ

ในเดือนมีนาคม 2562 ยกเลิกการก่อสร้างในที่ดินดังกล่าว และย้ายมาที่ใหม่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ที่หมู่ 11 ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยระบุว่าไม่สามารถตกลงซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ โดยมีการเปิดจองลูกค้ารายใหม่เพิ่ม และแจ้งกับกลุ่มผู้เสียหายว่า หากไม่พอใจในทำเลใหม่ จะคืนเงินให้ภายใน 60 วัน

ต่อมาวันที่ 4 กันยายน 2562 ทางโครงการได้รับแจ้งกับกลุ่มผู้เสียหาย ว่า ทางโครงการได้ยกเลิกโครงการบนทำเลใหม่ โดยให้เหตุผลว่า ถูกนายทุนและเจ้าของที่ดินหลอก จึงขอยกเลิกสัญญาให้กับผู้ที่ต้องการยกเลิก และจะหาทำเลที่ตั้งใหม่ให้กับผู้ที่ไม่ยกเลิกสัญญา ทางกลุ่มผู้เสียหายจึงเข้าพบกับเจ้าของที่ดิน จึงทราบว่า ที่ดินดังกล่าวที่ทางโครงการกล่าวอ้าง โครงการไม่เคยทำสัญญาซื้อขาย หรือวางมัดจำบนที่ดินดังกล่าว ประกอบกับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 ทางโครงการไม่ได้แสดงให้เห็นว่าจะมีการก่อสร้างโครงการ มีเพียงการเปิดขายและเปิดจองทำสัญญากับลูกค้ารายใหม่ เบื้องต้นทางเจ้าของที่ดินได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.แม่โจ้ เพื่อยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว และทำการแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีกับทางบริษัท เนื่องจากได้รับความเสียหายจากการนำที่ดินไปหลอกขาย

ปัจจุบันมีผู้เสียหายประมาณ 100 ราย จึงรวมตัวกันเพื่อมาร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม เพื่อตรวจสอบ และเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และเพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้โครงการนี้ไปกระทำการแบบนี้ที่อื่น ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีก หลังจากนี้ จะพาผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนายพลเชษฐ์ ชัยภัทร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ปัจจุบันประกอบธุรกิจเช่ารถ มาอาศัยเช่าบ้านอยู่ที่เชียงใหม่นานกว่า 30 ปี เมื่อมีโครงการบ้านล้านหลังเข้ามา จึงคิดว่าเป็นโอกาสที่จะมีบ้านเป็นของตัวเอง และต้องการรับพ่อ-แม่ ที่อายุมากแล้วมาอยู่ด้วย จึงนำเงินที่เก็บไว้มาจองสิทธิ์และทำสัญญากับโครงการบ้านจัดสรรแห่งนี้ รวมแล้ว 30,000 บาท เพราะเห็นว่า อยู่ในราคาที่พอจะสามารถผ่อนชำระรายได้เดือนได้ ที่ผ่านมาเคยเข้าไปดูทำเลที่ตั้งโครงการ เห็นว่าไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก และมีความน่าเชื่อถือ เพราะเข้าโครงการกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่ต้องผ่านการตรวจสอบมาแล้ว จึงรู้สึกผิดหวังและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เงินคืน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายน 2562 ได้รับการติดต่อจากโครงการให้โอนเงินเป็นการผ่อนชำระเงินดาวน์ เดือนละ 5,000 บาท โดยโครงการระบุว่าเมื่อบ้านสร้างเสร็จจะได้มีเงินดาวน์ออมไว้ทันที แต่ไม่ได้โอนไป เนื่องจากเริ่มไม่มั่นใจกับโครงการ หลังจากนี้ขอเพียงเงิน 30,000 บาท ที่จ่ายไปคืนเท่านั้น ไม่ต้องการดอกเบี้ย แค่ความหวังค่อนข้างน้อยมาก เพราะกลุ่มที่ขอยกเลิกสัญญาไปก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ได้รับเงินคืนเลย

ล่าสุด ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า โครงการบ้านจัดสรรข้างต้นได้มาร่วมออกบูธประชาสัมพันธ์โครงการที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการจัดทำโครงการบ้านล้านหลัง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ได้มีโอกาสเลือกสรรที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับตนเอง ธนาคารอาคารสงเคราะห์จึงได้ให้ผู้ประกอบการนำเสนอโครงการให้แก่ผู้ที่มาจองสิทธิ์สินเชื่อได้พิจารณาคัดเลือกที่อยู่อาศัย ซึ่งโครงการบ้านจัดสรรที่มีกลุ่มประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่มาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเลือกซื้อ

อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่เกิดขึ้นของโครงการนี้ ธนาคารได้เล็งเห็นถึงความตั้งใจในความต้องการที่จะมีที่อยู่อาศัย ธนาคารจึงได้ประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการที่จะพิจารณาขยาย/คงสิทธิ์ให้กับลูกค้ากลุ่มนี้สามารถใช้สิทธิ์สินเชื่อตามโครงการบ้านล้านหลัง โดยสามารถยื่นกู้ได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2564