ผลตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดคนขับกระบะ 13 ศพ ไม่เกินกฎหมายกำหนด

จากกรณีเมื่อเวลา 01.00น. วันที่ 29 กันยายน 2562 มีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ที่บริเวณถนนกิ่งแก้ว ปากทางเข้าซอยกิ่งแก้ว 21 มุ่งหน้าลาดกระบัง ม.12 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จนมีผู้เสียชีวิต 13 คน บาดเจ็บสาหัส 6 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2562 ที่บริษัท ภัทร บอดี้ เซอร์วิส จำกัด ที่อยู่ภายในซอยกิ่งแก้ว 22/2 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่เป็นบริษัทที่ นักศึกษาทั้ง 19 คน ที่อยู่ในรถกระบะคันเกิดเหตุไปฝึกงาน มีการปิดประตูและติดป้ายหยุดให้บริการ คาดว่าทางบริษัทจะเดินทางไปร่วมในพิธีสวดพระอภิธรรมศพของนักศึกษาที่ จ.ศรีสะเกษ

ส่วนความคืบหน้าหน้าด้านคดี พ.ต.อ.พิสุทธิ์  จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และส่วนทางด้าน นายนิตยา สุขจันทร์ ผู้ขับขี่รถกระบะ รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังไม่ได้สอบปากคำแต่อย่างใด เนื่องจากยังบาดเจ็บสาหัส

เบื้องต้นทางแพทย์ได้แจ้งผลการตรวจหาแอลกอฮอล์ในเลือดแล้ว พบว่า ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด มีเพียง 38 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตรวจเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2562 เวลา 06.07 น. ถือเป็นปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ส่วนความผิดเรื่องอื่นจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป

สำหรับคดีอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก แต่ขอยืนยันว่ากระแสข่าวที่ว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมจาก 13 ศพ เป็น 17 ศพ ไม่เป็นความจริง โดยสรุปตัวเลขผู้เสียชีวิต ขณะนี้มี 13 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ มีจำนวนทั้งหมด 6 คน ในส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ มีทั้งหมด 9 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน

ในขั้นตอนของการดำเนินคดี พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยาน 1 ปาก ซึ่งเป็นพยานที่นั่งมาภายในรถคันเกิดเหตุ ส่วนพยานอื่นๆ ก็ขอเวลาจัดการเรื่องงานศพเสร็จสิ้นก่อนที่จะเดินทางเข้ามาให้ปากคำ

ส่วนเรื่องของการตรวจพิสูจน์รถได้แจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสภาพรถคันเกิดเหตุ เพื่อดูร่องรอยการเฉี่ยวชน สภาพการเฉี่ยวชน รวมถึงดูว่าสามารถจะตรวจพิสูจน์ความเร็วของรถในขณะที่เกิดเหตุได้หรือไม่

ขณะที่การรวบรวมพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด ได้กล้องวงจรปิดที่เห็นลักษณะการเกิดเหตุมาแล้ว ซึ่งจะต้องรวบรวมให้ครบ เพื่อจะได้เห็นภาพชัดเจนว่ารถก่อนเกิดเหตุขับมาอย่างไร โดยเรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาก็จะดำเนินการอย่างรัดกุมที่สุด และจะดำเนินแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

ส่วน นายเลิศ สุขจันทร์ บิดาของนายนิตยา คนขับรถกระบะคันก่อเหตุ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ถึงลูกชายตนเองไม่เสียชีวิต ตนเองก็ไม่ได้ดีใจ และเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นภาพแล้วพูดไม่ออก ต้องขอโทษครอบครัวผู้สูญเสียทั้งหมดและพยายามไปดูแลผู้สูญเสีย ก็จะทำเท่าที่ตนองทำได้ และฝากขอโทษแทนลูกชายด้วย