เปิดใจ หนุ่มไทยน้ำใจงาม ทำข้าวไข่เจียว ให้นักท่องเที่ยวตกค้าง ที่ภูเก็ต

จากกรณีที่มีการแชร์ภาพและข้อความของหนุ่มไทยทำอาหารให้นักท่องเที่ยวตกค้าง ที่ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต รับประทาน ก็ก่อให้เกิดความประทับใจในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก

สปริงนิวส์ จึงติดต่อขอสัมภาษณ์ คุณกิตติคุณ บุญธรักษ์วรกุล เจ้าของโพสต์ดังกล่าว โดยเขาเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “โรงทานของเราจะตั้งอยู่ในพื้นที่หาดป่าตอง ตรงข้ามกับเดอะรอยัล พาราไดซ์ โฮเต็ล แอนด์ สปา ก่อตั้งโดยโกไข่ เป็นบุคคลในพื้นที่ที่ใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวให้การสนับสนุนในการซื้ออาหารและน้ำดื่ม

“โดยผมเป็นหนึ่งในบรรดาเหล่าจิตอาสา ที่มาช่วยปรุงอาหารเพื่อแจกจ่าย ซึ่งวันหนึ่งจะแจกจ่าย 2 รอบ คือ เวลา 11.00 น. และ 16.00 น.

“เหตุการณ์ในวันนั้น เกิดขึ้นช่วงที่เราแจกอาหารรอบ 11.00 น. ไปแล้ว ก็มีชาวต่างชาติ (ผู้ชาย) เดินมานั่งที่เก้าอี้ ผมก็เข้าไปทักและถามว่า คุณหิวไหม เขาก็บอกว่า เขาหิว คือเขายังไม่ได้ทานอะไรเลย

“แต่ตอนนั้นเราไม่มีอาหารแล้ว ผมจึงถามว่า กินไข่เจียวได้ไหม เพราะมันเป็นเมนูที่ง่ายๆ และผมสามารถทำให้ได้เดี๋ยวนี้ เขาก็บอกทานได้ ผมจึงเข้าไปในครัว ทำไข่เจียวใส่ข้าวสวยมากล่องหนึ่ง แล้วก็ยื่นให้เขา

“ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ผมเดินไปดูเขา เขาทานหมดไวมาก ผมก็ถามเขาว่า อิ่มหรือเปล่า เขาบอกยังไม่อิ่ม คือเขาหิวมาก ผมจึงบอกว่า เดี๋ยวจะทำให้อีก

“แล้วสักพักก็มีนักท่องเที่ยวอีก 2 คน เดินมาหาเขา เป็นผู้ชายหนึ่งคน ผู้หญิงหนึ่งคน ผมถามพวกเขาว่า หิวไหม แต่ตอนนี้มีแค่ไข่เจียว พวกคุณทานได้ไหม เขาก็บอกทานได้ ผมก็เดินเข้าไปในครัว ทำข้าวไข่เจียวให้พวกเขาอีก 3 จาน”

“เมื่อนำข้าวไข่เจียวมาให้พวกเขาแล้ว ระหว่างที่ผมนั่งพัก แล้วมองไปที่พวกเขา ก็ทำให้คิดว่า ถ้าเราเป็นเหมือนนักท่องเที่ยว 3 คนนี้ แล้วเราต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้  เราจะใช้ชีวิตอย่างไร เราจะไปขอความช่วยเหลือจากใคร”

และหลังจากเรื่อราวดังกล่าวเผยแพร่ในโลกออนไลน์ คุณกิตติคุณก็ได้รับการติดต่อจากตำรวจท่องเที่ยว สอบถามข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับชาวต่างชาติเหล่านั้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัก อาหาร ระหว่างที่สนามบินภูเก็ตยังปิดอยู่ ทำให้พวกเขาไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้

เขาเล่าต่อไปว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้น ทางโรงทานจึงได้ทำอาหารเมนูต่างชาติ ที่รสชาติไม่เผ็ด สำหรับแจกจ่ายนักท่องเที่ยวด้วย โดยหลังจากนั้นมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (ไม่รวมคนในพื้นที่) มารับอาหารเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เฉลี่ยรอบละ 15 - 20 คน

โดยคุณกิตติคุณเล่าว่า ในส่วนของภาคเอกชน โรงแรมบางแห่งก็มีมาตรการลดราคาห้องพัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ประหยัดค่าใช้จ่าย

“และหากนักท่องเที่ยวท่านใดที่ไม่มีเงินนเลย หน่วยงานของทางภาครัฐก็จะจัดที่อยู่พร้อมอาหารให้ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ต้องการอยู่ในสถานที่ที่เขาอยู่มาก่อนหน้านี้ ไม่อยากย้ายไปไหน แต่ระหว่างนี้จะมารับอาหารจากโรงทานแทน”

สุดท้ายนี้ คุณกิตติคุณได้กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้ต้องการจะร่วมสมทบทุนกับโรงทาน ในการแจกจ่ายอาหาร ได้ติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ทางโรงทานยังพอมีกำลัง เพราะได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตเมตตาในพื้นที่ จึงยังไม่มีแนวคิดที่จะเปิดรับบริจาค แต่ก็ขอขอบคุณทุกๆ ท่านเป็นอย่างสูง

และสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า หากเราต่างมีน้ำใจแบ่งปัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แม้จะเกิดวิกฤตกี่ครั้ง โลกใบนี้ก็ยังคงงดงามเสมอ