รวบหนุ่มลาวขนเฮโรอีนและไอซ์มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง สถานีเรือหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, น.อ.โชคชัย เรืองแจ่ม รองผบ.นรข., น.ท.ธิติวัฒน์ เนียมประพันธ์ หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย, พ.ต.อ.ออมสิน บุญญานุสนธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.เตชรัฐ ประทุมชาติ ผกก.สภ.บ้านเดื่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ตชด ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายปู อายุ 27 ปี ราษฎรบ้านนาร่อง เมืองหาดทรายฟอง แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว พร้อมของกลางเฮโรอีน 37.62 กิโลกรัม, ไอซ์ 141.9 กิโลกรัม มูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านบาท

น.อ.โชคชัย เรืองแจ่ม รองผบ.นรข. กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกองกำลังผาเมืองว่าจะมีขบวนการขนยาเสพติดที่ถูกพักไว้ตามแนวชายแดนภาคเหนือ เปลี่ยนเส้นทางลำเลียงมายังพื้นที่ชายแดนภาคอีสาน โดยเฉพาะตามแม่น้ำโขง จ.หนองคาย จึงได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่กวดขันลาดตระเวน และล่าสุดได้ทราบข่าวการเตรียมลำเลียงยาเสพติดบริเวณบ้านสีกายใต้ ต.สีกาย อ.เมืองหนองคาย จึงสั่งการให้ น.ท.ธิติวัฒน์ เนียมประพันธ์ หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย สนธิกำลังหน่วยงานข้างเคียงเข้าตรวจสอบ จนกระทั่งเวลา 19.30 น. วันที่ 2 มี.ค. พบรถกระบะสีดำคันหนึ่งขับเขามาจอดริมตลิ่งแม่น้ำโขงบ้านสีกายใต้ จากนั้นมีเรือหางยาว มีชายฉกรรจ์ 7 คนนั่งมาในเรือ แล้วพากันหิ้วกระสอบคนละใบ ลงเรือกำลังจะนำขึ้นหลังรถกระบะ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว กลุ่มชายฉกรรจ์แตกตื่นพากันหลบหนี ส่วนรถกระบะก็รีบขับหลบหนีไปโดยมีกระสอบวางอยู่ท้ายรถ 1 กระสอบ แต่สามารถจับกุมนายปู ไว้ได้ และยึดกระสอบไว้ได้ทั้งหมด 6 กระสอบ ตรวจสอบพบว่าภายในมีเฮโรอีน และ ไอซ์ บรรจุอย่างดีซุกซ่อนอยู่

จากการสอบสวน นายปู ให้การรับสารภาพว่า มีชาวลาวด้วยกันว่าจ้างให้พวกตนทั้ง 7 คน ขนยาเสพติดมาส่งที่ จ.หนองคาย แล้วจะมีคนมารับต่อ แล้วจะได้ค่าจ้างคนละ 10,000 บาท ซึ่งตนทำมาแล้ว 5 ครั้ง เฉลี่ย 2 -3 สัปดาห์ครั้ง เมื่อส่งยาเสพติดเสร็จจึงจะได้รับเงินค่าจ้าง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ไอซ์,เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

ด้าน นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดในช่วงนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะขบวนการค้ายาเสพติดมีการเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงจากภาคเหนือมายังภาคอีสาน ซึ่ง จ.หนองคาย เป็นจังหวัดชายแดนริมแม่น้ำโขงมีช่องทางธรรมชาติมากมาย จึงเป็นอุปสรรคต่อการสกัดกั้น การทำงานของเจ้าหน้าที่ก็ทำเต็มที่แล้ว แต่อยากจะขอความร่วมมือกับประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลหากพบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมายให้แจ้งข่าวสารให้เจ้าหน้าที่ทราบเพื่อเป็นแนวทางป้องกันอีกทางหนึ่งด้วย