svasdssvasds

ก่อนเริ่มปีใหม่ เรามาปิดปีเก่าให้ดีภายใน 4 สัปดาห์

ก่อนเริ่มปีใหม่ เรามาปิดปีเก่าให้ดีภายใน 4 สัปดาห์

เวลาอีก 4 อาทิตย์เหลือคือเวลามีค่าที่น่าจะได้ลองทบทวนชีวิตในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ "ปณิธานปีใหม่" หรือ New Year’s Resolution ที่ตั้งใจไว้เมื่อตอนต้นปีประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด การลงมือทำคือหัวใจของการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

หลายคนเริ่มนับถอยหลังและนึกถึงวันหยุดช่วงปีใหม่ที่กำลังใกล้เข้ามาในอีกไม่กี่อาทิตย์ ในขณะที่อีกหลายคนยังคงวุ่นอยู่กับภาระงานช่วงสิ้นปีจนไม่ได้มีเวลาคิดถึงช่วงวันหยุดยาวที่ใกล้มาถึง 

ไม่ว่าคุณจะอยู่กลุ่มไหน เวลาอีก 4 อาทิตย์เหลือคือเวลามีค่าที่น่าจะได้ลองทบทวนชีวิตในปีที่ผ่านมาว่าปณิธานปีใหม่หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า New Year’s Resolution ที่ตั้งใจไว้เมื่อตอนต้นปีประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด ช่วงเวลานี้คือโอกาสสุดท้ายของการลงมือทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ตอนต้นปีแล้วคะ

New Year’s Resolution เริ่มมีมาตั้งแต่ยุคบาบิโลนเมื่อ 4,000 กว่าปีก่อน ปณิธานปีใหม่เป็นเหมือนคำมั่นสัญญาที่ให้กับเทพเจ้าในช่วงปีใหม่ของชาวบาบิโลเนียน ชาวบาบิโลเนียนมีความเชื่อว่าถ้าใครทำสำเร็จจะเป็นที่โปรดปรานและได้รับความเมตตาเป็นการตอบแทนตลอดทั้งปี

แม้เวลา 4 อาทิตย์จะดูน้อยนิดสำหรับเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่เราตั้งใจไว้เมื่อตอนต้นปีก็ไม่เป็นไร อยากให้ลองหายใจลึกๆ และกลั้นใจทบทวนดูว่ามีอะไรที่เราตั้งใจไว้แล้วยังไม่ได้ทำบ้าง ไม่ว่าจะลดน้ำหนัก อดอาหาร  ออกกำลังกาย ทำโปรเจคต์ใหม่ เปลี่ยนงาน บางอย่างเราอาจจะได้ลองทำแต่ไม่สำเร็จแล้วล้มเลิกไป หรือบางอย่างอาจจะยังไม่ได้ลงมือทำเลยนั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่ากัน 2 เรื่องต่อไปนี้ คือ 

  1. เหลือเวลา 1 เดือน หรือ 30 วัน ฉันจะทำอะไรได้บ้าง 
  2. ฉันจะทำเต็มที่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เขียนออกมาเป็นแผนกิจกรรม เป็นตารางสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันได้จะยิ่งดี  

แน่นอนว่า 30 วันมันยากที่จะทำให้ New Year’s Resolution ที่ตั้งใจไว้เมื่อตอนต้นปีซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องใหญ่เพราะเรามีเวลาถึ ง 12 เดือน หรือ 365 วันสำหรับทำเรื่องนั้นให้ประสบผลสำเร็จ

ดังนั้นได้โปรดให้ความยุติธรรมและเมตตาต่อตัวเองด้วยการเอาเป้าหมายเมื่อต้นปีทอนให้เป็นเป้าหมายรายเดือน ให้ดูเป็นเป้าหมายที่เล็กลงแต่ก็ยังสมเหตุสมผลเชื่อมโยงกับเป้าหมายเดิม เช่น ลดน้ำหนัก 5 กิโลปรับมาเป็นจำกัดอาหารประเภทแป้งหรือทานสลัดเป็นมื้อเย็น เป็นต้น

หรือถ้าใครคิดว่ายังยากไปให้ปรับเป็นแค่ลงมือทำก็ยังดี เช่น ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 วัน เอาเป็นเดือนธ.ค.นี้เข็นตัวเองได้ออกกำลังกายได้สัก 3 ครั้งก่อนถึงสิ้นปี เอาแค่นี้พอค่ะ แค่ให้ได้ลงมือทำตามสิ่งที่เราตั้งใจไว้ตอนต้นปี ซึ่งมักเป็นเรื่องดีๆ ที่เราคิดอยากทำให้กับตัวเอง

ที่ชวนให้ทุกคนลองทบทวน New Year’s Resolution ในช่วงเดือนสุดท้ายเพราะอยากให้เรานึกถึงความตั้งใจที่ดีงามเมื่อตอนต้นปีว่าเรามีเป้าหมายอะไร อยากปรับปรุงเปลี่ยนแปลงด้านไหน อยากทำเรื่องดีๆ อะไรให้กับตัวเองบ้าง และได้ลงมือทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ ขออนุญาตขีดเส้นใต้และทำตัวหนาคำว่า ลงมือทำ แม้ว่าจะไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ก็ตามที เพราะว่า.....

“ความสำเร็จนั้นเริ่มต้นที่ก้าวแรก” และ “ปีใหม่ไม่ได้มีหนเดียว”

 

 

เมื่อมีเป้าหมายแล้วไม่ได้ลงมือทำ สิ่งที่เกิดขึ้นคือความล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น ซึ่งมีแต่จะทำให้เราสูญเสียความเชื่อมั่นและความนับถือในตัวเอง แล้วเราจะรู้สึกอย่างไรกับ New Year’s Resolution ในปีถัดไป เรายังอยากจะมีเป้าหมายใหม่มั้ยและถ้ามีเราจะมั่นใจและจริงจังขนาดไหน ดังนั้นการลงมือทำตามเป้าหมายของปีนี้จึงเป็นการอุ่นเครื่องสำหรับ New Year’s Resolution ในปีต่อไป เป็นการสร้างความเชื่อมั่น สร้างความภูมิใจ เตรียมพร้อมสำหรับ New Year’s Resolution ในปีที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า

การลงมือทำคือหัวใจของการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะการไม่ถอดใจล้มเลิกแม้จะเหลือเวลาน้อยนิดนั้นเป็นกลไกที่สร้างนิสัยของการความพยายาม การกัดไม่ปล่อย เหมือนนักฟุตบอลที่วิ่งทำประตูไม่หยุด แม้ว่าจะอยู่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเพียงไม่กี่นาที นี่จึงเป็นหลักการของความมุ่งมั่นซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้ที่ประสบความสำเร็จทุกคน

30 วันสุดท้ายของปีจึงเป็นนิมิตรหมายอันดีที่เราจะกลับมาเริ่มทำสิ่งที่เราตั้งใจไว้เมื่อตอนต้นปี เป็นการส่งสัญญาณว่าแม้เหลือเวลาอีกแค่ 30 วันฉันก็จะพยายามต่อไปอย่างไม่ลดละ ต่อให้เทพเจ้าจะไม่โปรดปรานหรือเมตตาเราเหมือนความเชื่อของชาวบาบิโลเนียน แต่เชื่อแน่ว่าถ้าท่านเห็นถึงความเพียรพยามและความมุ่งมั่นของเราท่านต้องเอาใจช่วยให้เราทำสิ่งที่ตั้งใจได้สำเร็จในปีถัดไปแน่นอน

บทความอื่นที่น่าสนใจ

related