สารเคมีจาการทำสีผมไม่ได้ส้่งผลแค่กับเส้นผมเท่านั้น แต่ยังส่งผลกับหนังศีรษะของเรา ช่างทำผม และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย Davines แบรนด์แฮร์แคร์รักษ์โลกที่ให้ความสำคัญเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้ถ่ายทอดแนวคิด Sustainable Beauty ผ่านแฮร์โชว์บนเวทีแฟชั่นวีค
Climate change ที่กำลังจะเผชิญอีกไม่เกิน 7 ปีข้างหน้านี้ จะมีความรุนแรงไม่ต่ำกว่า 5 เท่า ผู้คนจะล้มตายไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านคน ประมาณ 50% ของประชากรโลกจะได้รับผลกระทบจากการไม่มีที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในฐานล่างของสังคม หรือ Bottom of pyramid และเป็นเทรนด์ที่ไม่ใช่เฉพาะภาครัฐ แต่ต้องเป็นการรวมพลังจากทุกคนในทุกภาคส่วนของสังคมที่ต้องช่วยกันกอบกู้โลก
ดาวิเนส เป็นแบรนด์ที่ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน และเป็นแรงบันดาลให้ธุรกิจอีกหลาย ๆ แบรนด์ ที่มีเป้าหมายในการทำธุรกิจโดยไม่ได้หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อโลกใบนี้อีกด้วย ซึ่ง Davines ได้ร่วมมือกับโครงการ 1 % for the Planet โดยบริจาคเงินจำนวน 50,000 ยูโร เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของสถาบันโรเดล เพื่อสนับสนุนการเกษตรอินทรีย์แบบปฏิรูป และมูลนิธิ Slow Food เพื่อสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพ และในประเทศไทยจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ WE STAND/for regeneration และดาวิเนส เอสเซนเชี่ยล แฮร์แคร์ 5% ร่วมสมทบทุนให้กับโครงการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนา จังหวัดนครสวรรค์
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
สวยได้ไม่ทำร้ายโลก! ลิสต์ Eco-Friendly Beauty Brands เครื่องสำอางรักษ์โลก
Dior พัฒนาแพ็กเกจเพื่อโลก ใช้วัสดุรีไซเคิล ลดผลกระทบต่อจากกระบวนการพิมพ์
“สำหรับก้าวต่อไปของดาวิเนส ก็เป็นเป้าหมายเดียวกับสหประชาชาติที่ต้องการสผลักดันเรื่อง Net zero emissions ในปี 2030 ซึ่งเราได้นำมาเป็นนโยบายในการดำเนินธุรกิจของดาวิเนสที่มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้อม สำหรับก้าวต่อไปของดาวิเนส ก็เป็นเป้าหมายเดียวกับสหประชาชาติที่ต้องการผลักดันเรื่อง Net zero emissions ซึ่งเราได้นำมาเป็นนโยบายในการดำเนินธุรกิจของดาวิเนสที่มุ่งมั่นในการสร้างความงามที่ยั่งยืนให้แห่โลกของเรา”
ในขณะที่ กษิด์เดช สุวรรณาภิรมย์ ในฐานะเจ้าของธุรกิจร้านซาลอน เผยถึงการเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาสิ่งแวดล้อม ว่า “ในฐานะช่างผมที่ต้องสัมผัสสารเคมีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เปรียบเหมือนเราทำร้ายตัวเองในทุกวัน เพราะกว่าจะได้สีผมสวย ๆ เราต้องฟอกและย้อมสีผมให้ลูกค้าซ้ำแล้วซ้ำอีก และมีช่างผมช่างทำสีผมจำนวนมากที่ประสบปัญหาสุขภาพที่มีสาเหตุจากการสัมผัสสารเคมีต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งการฟอกย้อมผมแต่ละครั้ง จำเป็นต้องใช้น้ำจำนวนมากกว่าจะได้สีตามที่ต้องการ ซึ่งสารเคมีที่ถูกชะล้างไปกับน้ำนั้นจะมีไขมันที่ไม่ย่อยสลาย และอาจไปอุดทันในท่อระบายน้ำได้อีกด้วย ฉะนั้นควรให้ความสำคัญในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ย่อยสลายได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งต้องตระหนักถึงผลกระทบที่จะส่งผลต่อสุขภาพของเราต่อเนื่องไปถึงสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงต้องอาศัยความร่วมมือกันของทุกฝ่าย ตั้งแต่เจ้าของร้าน ช่างผม และลูกค้า ในการเลือกใช้ผลิคภัณฑ์เพื่อความงามที่ยั่งยืน ไม่ทำลายสุขภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม”