svasdssvasds

ฺBreaking News : จับ“โกต๊อก” นักธุรกิจพันล้าน ร่วมค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา

ฺBreaking News : จับ“โกต๊อก” นักธุรกิจพันล้าน ร่วมค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา

จับ “โกต๊อก” นักธุรกิจพันล้าน ร่วมค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา พบเชื่อมโยงทางการเงิน ทำหน้าที่ฟอกเงินขบวนการค้ามนุษย์ หลังถูกออกหมายจับหนีกบกดานมาเลเซีย กว่า 4 ปี ก่อนถูกรวบได้คาด่านพรมแดนอรัญประเทศ ให้การภาคเสธ อ้างทำธุรกิจดิวตี้ฟรี-แลกเงิน

วันนี้ (3 พ.ย. 62) พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 ร่วมกันเปิดเผยผลการจับกุมนายสุพัฒน์ สันติปิยบุตร หรือ โกต๊อก อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 401/2558 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2558 ในข้อหา สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แห่งบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยปราศจากเสรีภาพในทางร่างกายและเรียกค่าไถ่ โดยจับกุมได้บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 2 พฤจิกายน ที่ผ่านมา

โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2555 ถึงเดือนพฤษภาคม 2558 นายสุพัฒน์ ได้ร่วมกันกับพวกค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ซึ่งถูกจับกุมดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ คือ นายบรรณจง ปองผล หรือ โกจง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์, พล.ท.มนัส คงแป้น และเจ้าหน้าที่รัฐประกอบด้วยทหาร-ตำรวจ ผู้บริหารการเมืองท้องถิ่น รวม 103 คน ในความผิดฐานสมคบกันค้ามนุษย์ที่กระทำกับบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี และไม่เกิน 18 ปี และเกินกว่า 18 ปี อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ,มีส่วนร่วมอาชญากรรมข้ามชาติ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 และข้อหาอื่นๆ รวม 14 ข้อหา

เหตุเกิดที่ประเทศบังคลาเทศ ประเทศเมียนมา ประเทศไทยในจ.ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล และแคมป์พักชั่วคราวป่าเทือกเขาแก้ว หมู่ที่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และประเทศมาเลเซีย เกี่ยวพันกัน

โกต๊อก ผู้ต้องหาในคดีนี้ เป็นนักธุรกิจพันล้านใน อ.ปาดังเบซาร์ พบมีความเชื่อมโยงทางการเงิน ทำหน้าที่ฟอกเงินให้กับขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา 126 ครั้ง มีเงินหมุนเวียนในบัญชีหลายร้อยล้านบาท ซึ่งหลังถูกออกหมายจับได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในประเทศมาเลเซีย และใช้เครือข่ายความสัมพันธ์ทางธุรกิจคอยให้การช่วยเหลือและหลบซ่อนตัว หลบหนีคดีมานานกว่า 4 ปี

ต่อมาชุดสืบสวน บก.ปคม.สืบทราบว่านายสุพัฒน์ ได้เข้ามากบดานอยู่ในประเทศกัมพูชา จึงได้ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.3 และตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา ทำการการจับกุมนายสุพัฒน์ ได้บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ

จากการสอบสวนนายสุพัฒน์ ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่า รู้จักกับกลุ่มพล.ท.มนัส และมีการโอนเงินกันจริง แต่เป็นการทำธุรกิจดิวตี้ฟรี และธุรกิจแลกเงิน แต่ไม่ได้ร่วมค้ามนุษย์ โดยระหว่างหลบหนีก็ได้เดินทางเข้าออกประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และไทยอยู่ตลอด ซึ่งขณะที่หลบหนีมาอยู่กัมพูชาก่อนถูกจับกุมนั้น ได้เข้ามาเล่นการพนัน ซึ่งหลังจับผู้ต้องหาตรวจสอบในตัวมีเงินสดไม่มาก รวมถึงซักถามผู้ต้องหาพบว่ามีหนี้สินจากการเล่นพนันอีกด้วย

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. จะนำตัวนายสุพัฒน์ ไปคุมขังไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ในวันพรุ่งนี้(4 พฤศจิกายน) อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวขบวนการค้ามนุษย์ในคดีนี้ที่ยังหลบหนีอยู่อีกกว่า 20 ราย ที่ทำหน้าที่ขนคน ฟอกเงิน และค้ามนุษย์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

related