svasdssvasds

ทนาย "จ่าโอ๋" เผยการร้องเรียผู้บังคับบัญชา เป็นสิทธิ์ที่ประชาชนจะทำได้ ยันเหตุการณ์นี้เป็นความผิดร้ายแรงต่อตำแหน่ง

ทนาย "จ่าโอ๋" เผยการร้องเรียผู้บังคับบัญชา เป็นสิทธิ์ที่ประชาชนจะทำได้ ยันเหตุการณ์นี้เป็นความผิดร้ายแรงต่อตำแหน่ง

ทนายเดชา ระบุ การเดินหน้าร้องเรียนผู้บังคับบัญชา "จ่าโอ๋" ถือเป็นความผิดร้ายแรงต่อตำแหน่ง และเบียดบังผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างชัดเจน จำเป็นต้องเดินหน้าเปิดโปรงขบวนการนี้ให้หมดไป ยันการร้องเรียน ป.ป.ท. เป็นสิทธิ์ที่ประชาชนจะทำได้

วันนี้(31มี.ค.) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของ จ.ส.ต.เลอศักดิ์ นนท์ขุนทด หรือ จ่าโอ๋ ผบ.หมู่สืบสวน สน.พหลโยธิน ที่ นำเอกสารขอความเป็นธรรมผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ปปท.) เนื่องจากถูก พ.ต.ต.ชลากร ปานแดง สว.สส.สน.พหลโยธิน และ พ.ต.ต.เอกราช โอมา สว.สส.สน.พหลโยธิน ให้อำนาจมิชอบ หักเงินเบี้ยเลี้ยงจากตำรวจชั้นผู้น้อย 11 นาย เพื่อจัดซื้อเครื่องปรับอากาศติดตั้งในห้องสืบสวน แล้วถูก พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกไปพูดคุยนั้น น่าจะเป็นการเรียกไปพูดคุยในเรื่องของวินัย และการร้องเรียนข้ามขั้นตอน เพราะในวงการตำรวจ มีผู้บังคับบัญชาหลายระดับชั้น ซึ่งเขาคิดว่า จ.ส.ต.เลอศักดิ์ หรือจ่าโอ๋ คงไม่กังวลใดๆ ส่วนเรื่องที่ไปร้องเรียน สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท. เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งมีความผิดต่อตำแหน่งนั้น ไม่ใช่การข้ามขั้นตอน แต่เป็นการใช้สิทธิ์ประชาชนคนหนึ่ง

ขณะเดียวกันยอมรับว่าการออกมาเปิดเผย เรื่อง จ.ส.ต.เลอศักดิ์ หรือจ่าโอ๋ คงมีคนไม่พอใจหลายคน อีกทั้งเจ้าตัวก็ยอมรับผลที่จะตามมาอยู่แล้ว และอยากให้ กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่าง ที่ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติกับลูกน้องในลักษณะที่มีความเมตตา ไม่ใช่มาเบียดเบียนกันแบบนี้ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ออกมายอมรับว่ามีกว่า 100 โรงพัก ที่มีการเรี่ยไรเงิน ดังนั้น เขาในฐานะทนายว่าก็อยาจะเข้ามากระตุ้น และเปิดโปงพฤติกรรมเหล่านี้ให้หมดไป เนื่องจากตัวเองมองว่า พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายความผิดร้ายแรงต่อตำแหน่ง และเป็นการเบียดเบียนผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างชัดเจน

พร้อมกันนี้ อยากจะฝากถึงทุกๆคน ให้กำลังใจ จ.ส.ต.เลอศักดิ์ หรือจ่าโอ๋ กันมากๆ เพราะการที่นายตำรวจชั้นประทวนออกมาเปิดโปงพฤติกรรมการเอาเปรียบผู้ใต้บังคับบัญชาแบบนี้ ถือว่ามีความกล้าพอมาก และอยากจะให้หลายๆคนมีความกล้าที่จะต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมด้วย เพราะถ้าทุกคนกลัว หรือไม่กล้าที่จะออกมาเปิดโปง ก็คงจะต้องติดคุก หรือออกจากราชการไป

ทั้งนี้นายเดชา ยืนยัน ไม่มีความกังวลใจใดๆทั้งสิ้น เพราะชื่อว่าเวลาขึ้นศาล จะไม่มีอิทธิพลมือมาเบียดบังแน่นอน เพราะศาลเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนอย่างแท้จริง และเขาก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง

related