svasdssvasds

ความหวังของบ้าน! พ่อ “น้องนุ่น” เหยื่อแพรวา 9 ศพ รับถ้าลูกยังอยู่อาจได้เป็นผู้พิพากษา

อดีต ผกก.สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี พ่อของน้องนุ่น หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากกรณีคดีแพรวา9ศพ ยังคงเดินหน้าหาความเป็นธรรม รับถ้าลูกยังอยู่ดูจากความตั้งใจและผลการเรียนของลูกจะต้องได้เป็นผู้พิพากษา

จากกรณีอุบัติเหตุสุดสะเทือนขวัญเมื่อปี 2553 ที่ น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถยนต์ชนรถตู้โดยสาร บริเวณบนทางด่วนโทลล์เวย์ขาเข้าหน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ ล่าสุด พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ อดีต ผกก.สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี พ่อของนางสาวสุดาวดี นิลวรรณ หรือน้องนุ่น หนึ่งในผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 62 ที่ผ่านมา ชั้นฎีกาของศาลแพ่งได้อ่านคำพิพากษา ให้ฝ่ายจำเลยทั้ง 4 คน คือ จำเลยที่ 1 คือคนที่ชน ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 คือ บิดามารดาของคนที่ชน ส่วนจำเลยที่ 4 คือ คนที่ให้ยืมรถไปขับ

ทั้งนี้ ในวันพิพากษาฝ่ายจำเลย แม้แต่ทนายความก็ไม่มาฟังคำพิพากษา ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายโจทก์ หรือผู้เสียหาย และทีมทนายโจทก์ที่มหา'ลัยธรรมศาสตร์ได้ช่วยเหลือนั้น ได้ส่งหรือให้ทางศาลไปปิดหมายได้ทราบคำพิพากษา จากนั้น 30 วันจะต้องนำเงินค่าเสียหายมาชำระ หรือมาวางต่อกับศาล แต่ถ้าปิดหมายก็ใช้แค่ 15 วัน ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.มาถึงวันนี้ก็เลยเวลามานานแล้ว แต่พวกเราก็ยังไม่เคยได้รับข่าวสารจากฝ่ายจำเลย ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็ต้องเข้าสู่การบังคับคดีโดยศาลอ่านคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นค่าเสียหายไร้อุปการะ บุคคลที่เลี้ยงดู บุคคลที่มีชีวิตอยู่

ศาลฎีกาได้แก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ไปยืนยันให้ฝ่ายจำเลยชดใช้ค่าเสียหายเหมือนที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษามาแล้ว ให้ชดใช้ผู้เสียหายทุกคน และคดีถึงที่สุดแล้วฝ่ายจำเลย ยังไม่มีการติดต่อมาโดยตรง เพียงแต่ เห็นว่าจะมีการแถลงข่าว อาจจะมีผู้ใหญ่ของตระกูลเขา ลงมาดูเรื่องนี้ซึ่ง เป็นแนวโน้มที่ดี ซึ่งทางผู้ใหญ่ท่านอาจจะไม่ทราบเรื่อง หรือ ทราบข้อขัดข้องของฝ่ายครอบครัวจำเลย ทางญาติก็มีความหวังที่จะได้รับการเยียวยาจากจำเลย ที่ผู้ใหญ่ท่านรับทราบท่านลงมาในเรื่องนี้ ซึ่งได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีจนถึงที่สุดแล้ว โดยหลักทางจำเลยก็ทำตามคำสั่งของศาลฎีกาเพราะว่าคดีถึงที่สุดแล้วไม่มีที่ไหนให้ไปต่อสู้แล้ว

พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ กล่าวว่า เมื่อเสียลูกสาวใหม่ๆ เราได้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในเรื่องจัดการศพ จากประกันของ พ.ร.บ. ตามกฎหมายน่าจะประมาณ 200,000 บาท ตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ประกันพ.ร.บ.รถทั้ง 2 คัน ส่วนในเรื่องของประกันชั้นหนึ่งเป็นรถของคู่กรณี ไม่ได้จ่ายทันทีในตอนแรกทางทีมทนายของเรา ต่อมา เมื่อคดีเสร็จแล้วมีการฟ้องคดีแพ่ง มีการสืบพยานในคดีแพ่งทั้งสองฝ่าย โจทก์และจำเลย เสร็จทางประกันก็ติดต่อ มาขอชำระวงเงินประกันส่วนที่เหลือให้กับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งได้รับมาทางทีมทนายความก็จะจัดสรรแบ่งให้ผู้เสียหาย,ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตตามสัดส่วน เงินที่เหลืออยู่

พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ กล่าวถึงบุตรสาวว่าถ้า น้องนุ่น ยังมีชีวิตอยู่ เราคาดหวัง แต่ยังไม่เกิดขึ้น ผมก็มีความมั่นใจว่าน้องนุ่นเขาเรียนเก่งตั้งใจเรียนกฎหมาย เพื่อที่จะจบออกมาและสอบเนติบัณฑิต สอบเรียนต่อปริญญาโท และอยากเป็นผู้พิพากษาตั้งเป้าไว้อย่างนั้น จะเป็นจริงหรือเปล่าก็ไม่ทราบเพราะยังไม่เกิดขึ้น เพียงแต่ว่าพ่อและแม่มั่นใจว่า ดูจากความตั้งใจของลูก ดูจากผลการเรียน ลูกจะต้องได้เป็นผู้พิพากษา ถ้าสมมุติลูกมีชีวิตอยู่และได้เป็นผู้พิพากษาเป็นน่าจะ 2-3 ปีแล้ว เพราะผู้พิพากษาต้องสอบเข้าได้ด้วยอายุ 25 ปี ซึ่งน้องนุ่นถ้ายังมีชีวิตอยู่ปัจจุบันจะอายุ 28 ถึง 29 ปี มีอาจารย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็บอกว่า ถ้าน้องนุ่นไม่เสียชีวิตถ้าจบมาคงจะจบได้เกียรตินิยม

นางชุติมา นิลวรรณ แม่ของน้องนุ่น กล่าว่า ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2553 เราไม่เคยได้รับการติดต่อจากคู่กรณีเลย แม้กระทั่งเจอกันที่ศาล รอยยิ้ม หรือแววตาที่เป็นมิตร หรือคำทักทายไม่เคยเลย แม้กับญาติคนไหนก็ตาม ทุกวันนี้แม่คิดถึงลูกทุกวัน ลืมตาขึ้นมาหัวเตียงนอนจะเป็นบานกระจก ก็จะมองบนท้องฟ้าทุกวัน ตั้งแต่วันที่น้องเสียชีวิต ก็คิดเองว่าลูกอยู่เป็นความรักความผูกพันของแม่ คิดถึงสิ่งของที่เก็บมาจากห้องที่กรุงเทพฯ ก็อยู่ในกล่องเหมือนเดิม จนถึงทุกวันนี้ 9 ปีแล้ว ส่วนน้องชายของน้องนุ่น ตอนนี้เรียนจบแล้ว จบแพทย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตอนนี้ทำงานที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์จังหวัดอุบลราชธานี

related