svasdssvasds

เช็กก่อนซื้อรถ "เทคโนโลยีความปลอดภัยบนรถ" ที่รถยนต์ทุกคันควรต้องมีติดไว้

เช็กก่อนซื้อรถ "เทคโนโลยีความปลอดภัยบนรถ" ที่รถยนต์ทุกคันควรต้องมีติดไว้

ปัจจุบันอัตราการเสียชีวิตจากผู้ขับขี่ที่ประมาท เมาแล้วขับ ยังคงเกิดขึ้นทั่วโลก และสหรัฐอเมริกากำลังเตรียมบังคับใช้เทคโนโลยีให้ต่อไปรถทุกคันจะต้องมีเทคโนโลยีตรวจวัดแอลกอฮอลล์ในตัวรถรวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ISA) ด้วย

หากจะซื้อรถสักคัน จะดีแค่ไหนถ้ารถมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบถ้วน และมีประโยชน์มากเพราะจะช่วยให้ลดอุบัติเหตุที่เราไม่ได้สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทุกครั้งเมื่อเวลาขับขี่ไปตามท้องถนน เทคโนโลยีในปัจจุบันได้เข้ามาช่วยให้รถปลอดภัยขึ้น เช่นเทคโนโลยีเหล่านี้

การแจ้งเตือนจุดบอด (Blind-Spot Alert)

CR.lifewire
วิธีนี้ใช้เซ็นเซอร์ในรถเพื่อตรวจจับว่ามีรถอยู่ในจุดบอดของคุณหรือไม่ เป็นสัญญาณว่ามีรถอยู่ที่นั่นพร้อมการแจ้งเตือนที่กระจกมองข้างของคุณ รถบรรทุกปิกอัพบางคันยังมีระบบเตือนจุดบอดโดยพิจารณายานพาหนะที่อยู่ติดกับรถพ่วงข้างใดข้างหนึ่งของคุณในขณะที่คุณลากจูง

การแจ้งเตือนการจราจรข้ามถนน (Cross-Traffic Alerts)
หากคุณกำลังพยายามถอยออกจากที่จอดรถและมองไม่เห็นรอบรถด้านใดด้านหนึ่ง ระบบเตือนการจราจรด้านหลังจะแจ้งให้คุณทราบหากมีรถกำลังเข้าใกล้ ระบบนี้มักใช้หน่วยเรดาร์บนรถเพื่อตรวจจับการจราจรข้าม ในบางกรณี คุณจะได้ยินการเตือนและเห็นลูกศรบนหน้าจอตรงกลางซึ่งแสดงว่ารถคันอื่นกำลังจะมาในทิศทางใด ระบบเตือนการจราจรด้านหน้าจะสะดวกเป็นพิเศษเมื่อคุณออกจากตรอกหรือถนนคนเดินรถ ระบบที่ใหม่กว่าบางระบบยังป้องกันไม่ให้คุณเลี้ยวซ้ายข้ามการจราจรหากตรวจพบว่ามียานพาหนะอยู่ในเส้นทางของคุณ

CR.Lexus Europe

การเตือนการชนด้านหน้า/การหลีกเลี่ยง (Forward Collision Warning/Avoidance)
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW) จะตรวจจับได้ว่าคุณมีความเสี่ยงต่อการชนกับรถคันข้างหน้าหรือไม่ บางระบบสามารถตรวจจับได้ว่ามีการชนกันของรถคันข้างหน้าหรือไม่ FCW สามารถสร้างเสียง ไฟแสดงแฟลช หรือเปลี่ยนสัมผัสความรู้สึกของพวงมาลัยหรือแป้นเบรกได้ การหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้าจะใช้เซ็นเซอร์ FCW และหากคนขับไม่ตอบสนองเร็วพอ ระบบจะเพิ่มการเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเพื่อหยุดรถ

CR.Babydrive

การแจ้งเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane-Departure Warning) และกลับเข้าเลนอัตโนมัติ (Lane-Keep Assist)

ระบบแจ้งเตือนคุณหากรถของคุณเริ่มไปเบี่ยงเบนยังช่องทางอื่น และหากรถของคุณเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ช่องจราจรอื่น ระบบช่วยรักษาช่องจราจรจะใช้การบังคับเลี้ยวเพื่อให้รถของคุณอยู่ในเลน ในกรณีที่ระบบตรวจพบรถที่สวนทางมา จะบังคับเลี้ยวเพื่อกลับไปยังฝั่งที่ถูกต้องของถนน

CR.Mazda

ระบบช่วยเบรกถอยหลัง (Reverse Brake assist)
หากระบบนี้ตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหลังรถของคุณขณะถอย ระบบช่วยเบรกแบบถอยหลังอาจใช้การเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเพื่อหยุดรถของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงการถอยชน

CR.Ford

ซึ่งเชื่อว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เริ่มมีกันในหลากหลายยี่ห้อรถยนต์แล้ว แต่ที่น่าสนใจคือในรถยนต์ไฟฟ้า ที่สามารถใส่เทคโนโลยีได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีระบบ AI อัจฉริยะต่างๆ เช่น LiDAR หรืออื่นๆ จะสามารถทำให้การขับขี่ปลอดภัยได้มากขึ้นไปอีก

และยังมีส่วนเทคโนโลยีที่กำลังถูกผลักดันและอาจถูกนำมาใช้ทั่วโลกในอนาคตคือ ระบบตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ของผู้ขับขี่

CR.babydrive คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา NTSB (National Transportation Safety Board) ได้แถลงการณ์เพื่อต้องการผลักดันกฎหมายที่จะให้ผู้ผลิตรถยนต์ทุกยี่ห้อติดตั้งระบบตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เพื่อให้หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจออกข้อบังคับกฎหมายเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้

ระบบตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ของผู้ขับขี่ ซึ่งอาจมีระบบตรวจสอบความพร้อม สมรรถนะของผู้ขับขี่ จากเซ็นเซอร์อื่นๆด้วย เช่น อาการเจ็บป่วย , การใช้สารเสพติดที่ทำให้ไม่พร้อมที่จะขับรถ

การตรวจจับแอลกอฮอล์บนรถยนต์ ซึ่งจะตรวจจับเมื่อคนขับรถที่มึนเมา จากความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด (BAC) ที่หรือสูงกว่า 0.08 เปอร์เซ็นต์ 

ระบบนี้จะเป็นตัวเลือกด้านความปลอดภัยในรถยนต์ใหม่ เหมือนกับการเบรกอัตโนมัติ การเตือนการออกจากเลน และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ สำหรับผู้ขับขี่ยานพาหนะ

ซึ่งถ้าถูกบังคับใช้จริง อาจเป็นการวัดก่อนจะสตาร์ทรถยนต์ หรือหากปริมาณแอลกอฮอลล์เกิน ก็จะไม่สามารถเคลื่อนรถได้ ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุจากการขับขี่ได้มาก

และอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจคือ ISA (Intelligent Speed Assistance) หรือ ระบบช่วยเหลือความเร็วอัจฉริยะ ที่มีการผลักดันอย่างต่อเนื่อง

CR.ETSC

ซึ่งฝั่งยุโรปได้บังคับใช้แล้ว ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป ระบบช่วยความเร็วอัจฉริยะ (ISA) จะมีผลบังคับใช้สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่/ประเภทที่ออกสู่ตลาด ISA จะมีผลบังคับใช้สำหรับรถยนต์ใหม่ทั้งหมดที่จะขายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 

ระบบ ISA ทำงานอย่างไร?

โดยจะเริ่มที่ Passive (ระบบแจ้งเตือน) คือ การแจ้งเตือนด้วยเสียง,การแจ้งเตือนด้วยการสั่น และ Active (ใช้ระบบควบคุม) คือ เพิ่มแรงต้านคันเร่งให้หนักขึ้น , ควบคุมความเร็วโดยลดชะลอความเร็วอัตโนมัติ  

และนี่เป็นเพียงเทคโนโลยีเล็กๆน้อยๆที่เราลองยกตัวอย่างขึ้นมาให้คุณสามารถเข้าใจว่าทำไม รถรุ่นใหม่ ถึงมีแนวโน้มว่าจะปลอดภัยกว่ารถรุ่นเก่าที่ไม่มีเทคโนโลยีใดๆเลย ซึ่งอาจทำให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ง่ายขึ้น เพราะหากคุณชื่นชอบความปลอดภัย รถยนต์รุ่นใหม่ๆจะสามารถให้ได้มากกว่าอย่างแน่นอน

related