svasdssvasds

วิธีตั้งค่ามือถือ 'ช่วยประหยัดแบตฯ' กรณีไฟดับ ไร้สัญญาณ น้ำท่วม

วิธีตั้งค่ามือถือ 'ช่วยประหยัดแบตฯ' กรณีไฟดับ ไร้สัญญาณ น้ำท่วม

วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้ ไฟดับ-ไร้สัญญาณ เปิดเทคนิค "เซฟแบตมือถือ" ฉบับกู้ชีพ ยืดอายุใช้งานให้นานที่สุด เพื่อรอความช่วยเหลือ

SHORT CUT

  • วิธีประหยัดแบตเตอรี่มือถือในสถานการณ์ฉุกเฉิน ควรตัดวงจรค้นหาสัญญาณ เปิด Airplane Mode เมื่อสัญญาณอ่อน เปิดเช็คเป็นรอบเวลาเท่านั้น
  • ผู้ใช้ iPhone สามารถใช้โหมด Assistive Access  ส่วนผู้ใช้ Android สามารถใช้ Ultra Power Saving เพื่อเปลี่ยนจอเป็นสีดำ
  • การส่ง 'SMS' กินไฟจากแบตเตอรี่น้อยที่สุด และส่งผ่านเครือข่ายล่มได้ดีกว่าการโทร

วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้ ไฟดับ-ไร้สัญญาณ เปิดเทคนิค "เซฟแบตมือถือ" ฉบับกู้ชีพ ยืดอายุใช้งานให้นานที่สุด เพื่อรอความช่วยเหลือ

ท่ามกลางวิกฤตอุทกภัยภาคใต้ครั้งใหญ่ สร้างความเสียหายครอบคลุม 9 จังหวัด 'สมาร์ทโฟน' จึงไม่ใช่แค่เครื่องมือสื่อสาร แต่คือ 'อุปกรณ์ช่วยชีวิต' ในยามที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงและการรอคอยความช่วยเหลืออาจยาวนานกว่าที่คิด

วิธีเอาตัวรอด ช่วยประหยัดแบตฯมือถือในสถานการณ์ฉุกเฉิน

"การค้นหาสัญญาณ" เมื่ออยู่ในจุดที่สัญญาณอ่อนหรือไม่มีสัญญาณ (No Service) โทรศัพท์จะเร่งกำลังส่งเพื่อหาเสาสัญญาณที่ใกล้ที่สุด ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติ

หากสัญญาณขาดๆ หายๆ ให้เปิด Airplane Mode (โหมดเครื่องบิน) ทันที และเปิดสัญญาณเป็นรอบๆ (เช่น ทุก 1 ชั่วโมง) เพื่อเช็คข่าวสารหรือส่งข้อความ วิธีนี้จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้นานขึ้นหลายเท่าตัว

เปิดฟีเจอร์ "โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง" ซึ่งจะประหยัดไฟกว่าโหมด Low Power ปกติ

ผู้ใช้ iPhone : ให้ใช้ฟีเจอร์ "Assistive Access" (การเข้าถึงช่วยเหลือ) ฟีเจอร์นี้จะตัดลูกเล่นกราฟิกทั้งหมดเหลือเพียงปุ่มใหญ่ๆ และแอปพื้นฐานที่จำเป็น (โทร, ข้อความ) ช่วยลดการทำงานของ CPU ลงต่ำสุด  

วิธีเปิด : การตั้งค่า > การช่วยการเข้าถึง > Assistive Access

ผู้ใช้ Samsung/Android : ให้เปิด "Ultra Power Saving Mode" หรือโหมดประหยัดพลังงานสูงสุด ระบบจะเปลี่ยนหน้าจอเป็นสีดำสนิท (Dark Mode) และอนุญาตให้ใช้แอปได้เพียง 4-8 แอปเท่านั้น ซึ่งสามารถยืดแบต 10% ให้ใช้งานได้นานข้ามวัน  

วิธีเปิด : การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > เปิดตัวเลือก "จำกัดแอปและหน้าจอหลัก" ก่อนเปิดโหมดประหยัดพลังงาน

'การส่ง SMS' ใช้พลังงานน้อยที่สุดและมีโอกาสส่งผ่านเครือข่ายที่หนาแน่นได้ดีกว่าการโทรศัพท์ หรือการใช้อินเทอร์เน็ต

วิธีตั้งค่ามือถือ \'ช่วยประหยัดแบตฯ\' กรณีไฟดับ ไร้สัญญาณ น้ำท่วม

หากต้องการขอความช่วยเหลือ ให้พิมพ์ข้อมูลสำคัญ (ชื่อ, พิกัด, จำนวนคน, อาการเจ็บป่วย) เตรียมไว้ใน Note ก่อน เมื่อจับสัญญาณได้ให้รีบกดส่งทันทีแล้วปิดเน็ต

หากมือถือเปียกน้ำ ไม่ควรแช่ข้าวสาร เพราะฝุ่นแป้งจากข้าวจะเข้าไปอุดตันพอร์ตชาร์จและดูดความชื้นได้ช้า วิธีที่ถูกต้องคือ เช็ดให้แห้ง วางในที่อากาศถ่ายเท หรือใช้ สารดูดความชื้น (Silica Gel) 

ผู้ประสบภัยยังสามารถกดรับสิทธิ์โทร/เน็ตฟรีเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน

  • TrueMove H / dtac: กด *900*7162# โทรออก (รับเน็ตฟรี 10GB นาน 7 วัน และวันใช้งานเพิ่ม 10 วัน)  
  • AIS: ระบบมอบสิทธิ์โทรฟรี 100 นาที เน็ต 10GB ให้โดยอัตโนมัติสำหรับผู้ในพื้นที่ประสบภัย  

แนะนำให้เปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้การโทรผ่านแอป (VoIP) เช่น LINE Call หรือ Facetime Audio ในกรณีที่สัญญาณเสียงปกติ (2G/3G) ติดขัด เพราะเครือข่าย Data (4G/5G) อาจมีความหนาแน่นน้อยกว่าในบางช่วงเวลา

หากเกิดเหตุฉุกเฉินโทร 1784 (ปภ.) หรือ 1669 (เจ็บป่วยฉุกเฉิน) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

การปรับเปลี่ยนการตั้งค่าสมาร์ทโฟนเพียงเล็กน้อย การเลือกใช้โหมดประหยัดพลังงานที่ถูกต้อง และการดูแลรักษาอุปกรณ์ไม่ให้เปียกชื้น อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยในยามปกติ แต่ในยามภัยพิบัติ สิ่งเหล่านี้คือเส้นแบ่งระหว่างการขอความช่วยเหลือได้สำเร็จกับการถูกตัดขาด

ที่มา : bulksms

related