svasdssvasds

ไม่น่าเชื่อ! คอมพิวเตอร์สเปคโบราณ 25 ปี มือ 1 ยังขายได้พอ ๆ กับเครื่องใหม่ ๆ

ไม่น่าเชื่อ! คอมพิวเตอร์สเปคโบราณ 25 ปี มือ 1 ยังขายได้พอ ๆ กับเครื่องใหม่ ๆ

ถ้าบอกว่าคอมพิวเตอร์สเปคโบราณ 25 ปีที่แล้ว มือ 1 ขายได้เครื่องละ 36,000 บาท จะเชื่อไหม ? และจะบอกด้วยว่าคนขายเขาขายเป็นล่ำเป็นสันด้วย แต่เป็นร้านเป็นบริษัทเลยทีเดียว

หลายคนคงอาจไม่เชื่อว่าปัจจุบัน ปี 2022 ยังมีร้านขายคอมพิวเตอร์สเปคโบราณที่เรียกว่าแรงสุด ๆ เมื่อ 25 ปีที่แล้ว และที่สำคัญขายเครื่องหนึ่ง ราคาพอ ๆ กับเครื่องแรง ๆ ปัจจุบันเลย

นี่คือสเปคเบื้องต้นของเครื่องที่วางขาย

  • CPU : Intel P4/Celeron up to 3.06GHz
  • RAM : สูงสุด 2GB
  • USB 2.0
  • การ์ดจอ : ไม่มี
  • มีช่องอ่าน แผ่นดิสก์เก็ต หรือ ฟลอบบี้ดิสก์

ราคาขาย (ในปี 2022) 38,500 บาท

สำหรับใครที่อ่านสเปคคอมพิวเตอร์ไม่เป็น สเปคนี้ก็เปรียบความแรงเหมือนกับเอามือถือ Nokia 3310 มาใช้ทำงานในยุคที่ทุกคนใช้ iPhone 13 Pro Max ส่งไลน์กันหมดแล้ว หรือว่าง่าย ๆ คือเก่าและช้ามาก ๆ

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

แล้วทำไมมันยังมีขาย ?

ก็ต้องบอกว่ากลุ่มลูกค้าของคอมพิวเตอร์โบราณสมัยพระเจ้าเหาแบบนี้ก็คือ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสิ่งเดียวซ้ำ ๆ และยังต้องใช้อุปกรณ์(ฮาร์แวร์)ที่ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์แบบพิเศษ

เอาตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุด คงเป็นเครื่องออกตั๋วโดยสารอัตโนมัติ ซึ่งบางเครื่องยังใช้ Windows XP อยู่ด้วยซ้ำ และอย่างในแคนาดาเอง รถไฟฟ้าสกายเทรนด์ รถไฟไร้คนขับที่มีอายุยืนยาวที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือก็ยังใช้ แผ่นดิสก์เก็ต เก็บข้อมูลในการสั่งการรถไฟอยู่

ถ้าให้ตอบคำถามนี้แบบสั้น ๆ เลยคือ ถ้าให้ยกระบบรถไฟฟ้าใหม่ทั้งระบบอาจใช้เงินเป็นพันล้าน ไหนจะค่าคอมพิวเตอร์ใหม่ทั้งระบบ และค่าลิขสิทธิ์ที่ต้องใช้วินโดวส์แท้-โปรแกรมแท้ แต่ถ้าหาเครื่องมาทดแทนได้ ก็อาจเสียเงินแค่หลักแสนเท่านั้น

มันต่างจากคอมที่เราใช้อยู่ปัจจุบันยังไง ?

ก็ต้องบอกว่าสาเหตุที่ยังต้องใช้คอมรุ่นเก่าอยู่ส่วนหนึ่งเพราะตัวบอร์ดของเครื่องยังมีช่องเสียบที่สนับสนุนอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ และพอร์ตที่มีรูปแบบการส่งสัญญาณที่ไปได้ไกลกว่า ถ้าให้ยกตัวอย่างแบบง่าย ๆ ก็คงเป็น สาย HDMI ที่พ่วงได้ไกลสุดอย่างมากก็ราว ๆ 10 เมตร แต่สาย SDI ส่งได้ไกลเป็นร้อยเมตร

ทำไมไม่ซื้อมือ 2 จากอีเบย์

ก็ต้องบอกว่าถ้าคนที่ซื้อเป็นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟฟ้า เราจะฝากชีวิตคนที่โดยสารรถไฟเราหมื่น ๆ คนต่อวัน ไปกับของที่ถูกลง 7-8,000 บาท เพื่อเสี่ยงว่าวันนึงมันจะระเบิดเมื่อไหร่ กับ ยอมเสียเงินเพิ่มอีกหน่อยเพื่อเอาให้ชัวร์ว่ามันจะไม่พังใน 4-5 ปีนี้แน่ ๆ ไหม ?

สำหรับใครที่อยากรู้ว่าคนขายเขาขายอะไรบ้างก็สามารถไปตามได้ที่ nixsys.com

related