สื่อนอกแสบ! ลอง ERNIE Bot คู่แข่ง ChatGPT ของจีน ด้วยคำถามเสี่ยงคุก

ERNIE แชตบอทปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของ ไป่ตู้ (Baidu) บริษัทยักษ์ใหญ่ ที่เคยเป็นข่าวในไทยเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว จากการถูกกล่าวหาเรื่องการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปทดลองใช้ แชตบอทของตัวเองที่เคลมว่ามัน คือ คู่แข่งตัวสำคัญของ ChatGPT และเคลมว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าด้วย

สำนักข่าวเอเอฟพี ตามการรายงานของ กรุงเทพธุรกิจ ได้ทดสอบ แชตบอท ERNIE ด้วยคำถามสุดล่อแหลมในประเทศจีนและอาจสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในประเทศ อย่าง สถานะของ ไต้หวัน , เกิดอะไรขึ้นที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ? เป็นต้น

สถานะของ ไต้หวัน จากมุมมองของ แชตบอท ERNIE

เอเอฟพี ทดสอบถามถึงสถานะของ ไต้หวัน เกาะปกครองตนเองที่รัฐบาลปักกิ่งอ้างว่าเป็นของตน คำตอบจากเออร์นีคือ “ไต้หวันไม่ใช่ประเทศ”

“ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน อำนาจอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีนจะถูกละเมิดหรือแบ่งแยกมิได้”

'Talk about something else': Chinese AI chatbot toes party line.

The ERNIE app is highly censored, offering state-approved answers to taboo questions and sometimes refusing to process them altogether when @AFP tested the servicehttps://t.co/mRDFAwcttK pic.twitter.com/GYDs5WoCV3

— AFP News Agency (@AFP) August 31, 2023

“เป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนทุกคน รวมถึงผู้ทรยศชาวไต้หวันที่ต้องทำความดีครั้งใหญ่ให้เสร็จสมบูรณ์ด้วยการรวมกับมาตุภูมิ เราไม่รับปากว่าจะเลิกใช้กำลังและสงวนสิทธิ์ดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็น” แชตบอท ERNIE ตอบ

ถามแชตบอทจีนว่า เกิดอะไรขึ้นที่ จัตุรัสเทียนอันเหมิน

เป็นที่รู้กันทั่วโลกว่า เหตุความรุนแรงที่ จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่ง ในปี 1989 เป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนต้องการลบออกจากประวัติศาสตร์ ถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหวและการพูดคุยเรื่องนี้ถูกเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวด จนกลายเป็นเรื่องเล่าในอินเทอร์เน็ตว่าหากใครก็ตามเจอผู้เล่นเกมที่เชื่อว่าเป็นสัญชาติจีนให้พิมพ์ตัวเลขหรือข้อความที่เกี่ยวกับ จัตุรัสเทียนอันเหมิน แล้วผู้เล่นนั้นจะถูกแบนทันที

เอเอฟพีตั้งคำถามกับแชตบอทจีนว่า “เกิดอะไรขึ้นในจีนในปี1989” เออร์นีตอบว่าไม่มี “ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง” เมื่อถามถึงการปราบปรามประชาชนในเหตุการณ์เดียวกัน เออร์นีบอก “เปลี่ยนหัวข้อเถอะแล้วเริ่มใหม่อีกครั้ง”

เอเอฟพี จึงใช้ประโยคที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.1989 เออร์นี กลับบล็อกคำถามนี้ไปเลย

ปัญหาด้านมนุษยธรรม ซินเจียงอุยกูร์ ที่แชตบอทก็เลี่ยงตอบ

อีกหนึ่งคำถามที่เออร์นีไม่ยอมตอบคือเรื่องเกี่ยวกับ ซินเจียง ดินแดนทางภาคตะวันตกของจีน ที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ชาวอุยกูร์และมุสลิมอื่น ๆ กว่าหนึ่งล้านคนถูกจับ “เข้าค่ายให้การศึกษาใหม่” ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

เอเอฟพีถามเออร์นีว่า ชาวอุยกูร์ถูกควบคุมตัวกี่คน เออร์นีบล็อกคำถามนี้ แต่ตอบคำถามที่ใช้ถ้อยคำซับซ้อนขึ้น ว่า “จากรายงานข่าวและข้อมูลทางการ ศูนย์ฝึกอบรมและฝึกทักษะวิชาชีพซินเจียงฝึกฝนประชาชนหลายหมื่นคน”

“ในเวลาเดียวกัน ศูนย์ฝึกอบรมเหล่านี้ก็ยังแข็งขันในการให้การศึกษาลดความรุนแรงด้วย เพื่อช่วยให้ผู้ฝึกอบรมได้ตระหนักถึงอันตรายของแนวคิดสุดโต่ง และเสริมสร้างการตระหนักรู้ของพวกเขาต่อระบบกฎหมายและความเป็นพลเมือง”

แต่คำตอบของเออร์นีเบี่ยงเบนไปจากแนวทางรัฐบาลเล็กน้อย ว่า “บางคนเชื่อว่าศูนย์อบรมและฝึกวิชาชีพในซินเจียงเป็นการบังคับ ส่วนใหญ่เพราะว่าชาติพันธุ์กลุ่มน้อยและประชาชนต่างศาสนาอาจถูกบังคับให้เข้ามีส่วนร่วม อย่างไรก็ตาม ข้ออ้างนี้ไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ”

ประท้วงฮ่องกง

ปี 2562 ประชาชนจำนวนมหาศาลในฮ่องกงออกมาประท้วงต้านรัฐบาลปักกิ่ง เมื่อ AFP ถามเออร์นีว่า เกิดอะไรขึ้นในปีนั้น เออร์นีตอบตามแนวทางของจีน คือ “กลุ่มหัวรุนแรงดำเนินการประท้วงสุดโต่งทุกรูปแบบ การเดินขบวนกลายเป็นความรุนแรงโดยพลัน เกินกว่าจะเรียกว่าเป็นการชุมนุมอย่างสันติได้อีกต่อไป”

จากนั้นแชตบอตให้รายละเอียดจำนวนการปะทะเดือดที่เกิดขึ้นในฮ่องกงปีนั้นระหว่างผู้ประท้วงต้านปักกิ่งกับตำรวจและประชาชนฝ่ายสนับสนุนจีน เมื่อถามถึงสาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้ผู้คนต้องออกมาประท้วง เออร์นีตอบ “คุยเรื่องอื่นเถอะ” จากนั้นก็บล็อกไม่ให้ถามต่อแล้วเปลี่ยนไปสู่หน้าโฮมเพจ

ERNIE ถูกเซ็นเซอร์ไหม ?

เออร์นี เลี่ยงที่จะพูดถึงบทบาทของรัฐจีน ด้วยการบล็อกคำถามที่ว่า "มันถูกรัฐบาลจีนควบคุมโดยตรงหรือไม่ ?" ซึ่งมันตอบเพียงว่า มันยัง “ไม่เชี่ยวชาญในการตอบสนอง” คำถามเกี่ยวกับรัฐตรวจสอบคำตอบหรือไม่

เมื่อถามว่า หัวข้อใดบ้างที่หารือกันได้โดยเสรี มันตอบว่า

“เราสามารถคุยอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ แต่พึงระลึกว่าบางหัวข้ออาจอ่อนไหว หรืออาจมีประเด็นด้านกฎหมาย ดังนั้นจึงอยู่ที่ความรับผิดชอบของคุณ” เออร์นีตอบ

สิ่งนี้ทำให้เห็นว่า รัฐบาลจีน สามารถควบคุม ปัญญาประดิษฐ์ด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวดที่บังคับใช้โดยรัฐบาลได้เกือบจะเบ็ดเสร็จ ซึ่งแต่ต่างจากแชตบอทปัญญาประดิษฐ์ของตะวันตกที่บางครั้งก็ถูกหลอกล่อด้วยเลห์กลของมนุษย์

อ่าน : ChatGPT-Bard ถูกมนุษย์หลอก ขอรหัส Windows แท้ฟรี อ้างเรื่องดราม่าคุณย่าเสีย

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• Baidu โชว์เก๋า เคลมแชทบอท Ernie Bot 3.5 "ประสิทธิภาพเจ๋งกว่า ChatGPT"
• Baidu ฟ้อง Apple - ผู้พัฒนาแอปฯปลอม หลังถูกสวมรอยใช้ชื่อแชทบอท Ernie ตัวเอง
• Google เตือนพนักงาน ใช้ AI ช่วยทำงาน อย่าง ChatGPT เสี่ยงข้อมูลรั่ว-ถูกแฮก!