TikTok จะเพิ่มฟีเจอร์ "AI Creator" พัฒนาอินฟลูเอนเซอร์ AI ที่สร้างโฆษณาได้

ข้อมูลรายงานว่า TikTok กำลังพัฒนาอินฟลูเอนเซอร์ AI เสมือนจริง เพื่อโปรโมตและขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม ซึ่งอวตาร AI สจะามารถอ่านสคริปต์จากข้อความที่สร้างโดยผู้ลงโฆษณาหรือผู้ขายใน TikTok Shop แต่คุณลักษณะนี้ยังไม่มีการเผยแพร่ให้ใช้งานจริง ซึ่งทาง ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok อาจจะมีการปรับปรุงพัฒนาต่อไป หรืออาจจะยกเลิกโครงการนี้เลยก็ได้

ข้อดีในการใช้อินฟลูเอนเซอร์ AI บน TikTok

• ความสามารถในการส่งเสริมการขาย: อินฟลูเอนเซอร์ AI สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องหยุดพัก ช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมและการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง
• การควบคุมของแบรนด์: แบรนด์สามารถเขียนสคริปต์และควบคุมข้อความได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องเผชิญสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ที่เกี่ยวข้องกับอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นมนุษย์
• ประสิทธิภาพด้านต้นทุน: เมื่อเวลาผ่านไป อินฟลูเอนเซอร์ AI สามารถลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการเป็นหุ้นส่วนกับอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นมนุษย์ ซึ่งมักจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูง
• การเข้าถึงได้ทั่วโลก: อินฟลูเอนเซอร์ AI มีความสามารถในการปรับภาษาและความแตกต่างด้านความเชื่อและวัฒนธรรมในท้องถิ่นได้อย่างง่ายดาย สามารถดึงดูดผู้ชมทั่วโลกโดยไม่มีอุปสรรคทางวัฒนธรรมหรือภาษา

ข้อเสียในการใช้อินฟลูเอนเซอร์ AI บน TikTok

• ขาดความรู้สึกจริง: ผู้ชมอาจมองว่าอินฟลูเอนเซอร์ AI ไม่ใช่คนจริง ส่งผลให้ความไว้วางใจและการเชื่อมโยงกับผู้บริโภคลดลง
• การแย่งงาน: อินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นมนุษย์อาจเผชิญกับการแข่งขัน ซึ่งอาจส่งผลให้โอกาสการจ้างงานในอุตสาหกรรมการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ลดน้อยลง
• ข้อจำกัดทางเทคนิค: ปัจจุบัน AI อาจไม่สามารถจับความแตกต่างของอารมณ์และความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ซึ่งมักเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การตลาดประสบความสำเร็จ

ตามข้อมูลจาก The Information ของ TikTok ได้ทำการทดสอบอวตารของ AI แต่พบว่ามันยังไม่พร้อมที่จะเปิดตัวใช้งานอย่างเต็มระบบ และมันดึงดูดยอดขายอีคอมเมิร์ซได้น้อยกว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นมนุษย์ อย่างไรก็ตาม TikTok เชื่อว่าผู้สร้างอินฟลูเอนเซอร์ AI จะเสริมศักยภาพ และเป็นตัวเลือกทดแทนอินฟลูเอนเซอร์จริงๆในอนาคตได้

อย่างไรก็ตาม TikTok ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะจัดสรรเงินสนับสนุนระหว่างอินฟลูเอนเซอร์ AI และครีเอเตอร์ที่เป็นมนุษย์อย่างไร รวมถึงวิธีป้องกันไม่ให้ AI มาแย่งงานมนุษย์ เพราะครีเอเตอร์จำนวนมากต้องพึ่งพารายได้จากข้อตกลงกับแบรนด์ โดยเฉพาะหลังจากที่ TikTok ยกเลิกกองทุนสนับสนุน Creator Fund มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ไปแล้ว ซึ่งบางคนบอกว่าจ่ายเงินไม่เป็นธรรม ดังนั้น TikTok จึงต้องคิดหาวิธีเปิดตัวฟีเจอร์ AI Creator อย่างรอบคอบ ไม่เช่นนั้นอาจสร้างความไม่พอใจให้ผู้ใช้ปัจจุบันจนกลายเป็นศัตรูได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เพิ่งขอให้พวกเขาช่วยล็อบบี้ไม่ให้รัฐบาลสหรัฐฯแบนแพลตฟอร์ม

TikTok เคยทดลองใช้ AI มาก่อนแล้วในหลายโปรเจกต์ และให้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจ เช่นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีผู้ใช้บางส่วนพบฟีเจอร์ใหม่ชื่อ "Song Generator" ที่ให้ผู้ใช้สร้างเพลงและเนื้อเพลงผ่านโมเดลภาษา AI ขนาดใหญ่อย่าง Bloom 

นอกจากนี้ เมื่อปีก่อน TikTok ยังเริ่มใส่แท็ก AI ในฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์ต่างๆ พร้อมกำหนดให้ผู้ใช้ระบุในโพสต์ด้วยว่าพวกเขาใช้ฟิลเตอร์ AI เพื่อให้ผู้ชมรับทราบ แสดงให้เห็นว่า TikTok ให้ความสำคัญและลงทุนกับเทคโนโลยี AI มาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะมาถึงแผนทดสอบอินฟลูเอนเซอร์ AI ในครั้งนี้

ที่มา

• The Verge
• PHOTO : REUTERS