svasdssvasds

ByteDance สู้กลับ! กฎหมายแบน TikTok อ้างขัดรัฐธรรมนูญ-ขัดหลักการ Free Speech

ByteDance สู้กลับ! กฎหมายแบน TikTok อ้างขัดรัฐธรรมนูญ-ขัดหลักการ Free Speech

ByteDance สู้กลับ! ร้องศาล กฎหมายแบน TikTok ที่ โจ ไบเดน เซ็นต์ อ้างเหตุผลขัดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และ ขัดหลักการ Free Speech

SHORT CUT

  • ByteDance บริษัทแม่สัญชาติจีนของแฟลตฟอร์มวิดีโอสั้น TikTok อุทธรณ์ต่อศาลสหรัฐฯ ตอบโต้กฎหมาย แบน TikTok
  • ByteDance อ้างเหตุผลขัดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และ ขัดหลักการ Free Speech
  • กฎหมายแบน TikTok ส่งผลให้ ByteDance ต้องขายกิจการของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น TikTok ภายในวันที่ 19 มกราคม 2568 หรือยอมรับโทษแบนจากสหรัฐฯ

ByteDance สู้กลับ! ร้องศาล กฎหมายแบน TikTok ที่ โจ ไบเดน เซ็นต์ อ้างเหตุผลขัดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และ ขัดหลักการ Free Speech

ByteDance บริษัทแม่สัญชาติจีนของแฟลตฟอร์มวิดีโอสั้น TikTok เข้าร้องต่อศาลอุทธรณ์ ประจำเขตโคลัมเบีย ในสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้ กฎหมายแบน TikTok ที่ลงนามโดย โจ ไบเดน ประธานาธิบดี สหรัฐฯ ซึ่งบังคับให้ขายแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้ชาวสหรัฐฯกว่า 170 ล้านผู้ใช้ หรือยอมถูกแบนจากสหรัฐฯ

เหตุผลที่ ByteDance อ้างต่อศาลเพื่อตอบโต้ กฎหมายแบน TikTok คือ กฎหมายดังกล่าวละเมิดรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงการที่ฝ่าฝืนการคุ้มครองเสรีภาพในการพูด (Free Speech) ที่สหรัฐฯ ภาคภูมิใจ

กฎหมายแบน TikTok ส่งผลให้ ByteDance ต้องขายกิจการของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น TikTok ภายในวันที่ 19 มกราคม 2568 หรือยอมรับโทษแบนจากสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้ Google และ Apple ถอดแอปฯ TikTok ออกจาก App Store และ Play Store ซึ่งส่งผลกับผู้ใช้ iPhone และมือถือแอนดรอยด์ทั่วโลก ให้ไม่สามารถโหลดแอปฯ TikTok แบบง่าย ๆ และปลอดภัยได้อีกต่อไป

สาเหตุของ กฎหมายแบน TikTok เกิดจากความกังวลของนักการเมืองสหรัฐฯ ที่เชื่อว่า รัฐบาลจีนสามารถบังคับใช้กฎหมายให้บริษัทใด ๆ ในจีนส่งข้อมูลใด ๆ ที่บริษัทมีให้รัฐบาลตรวจสอบ ซึ่ง ByteDance มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปักกิ่ง และอาจส่งผลให้รัฐบาลจีนใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือในการสอดแนมชาวอเมริกัน

ก่อนหน้านี้ TikTok ที่มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ในฐานะบริษัทลูกของ ByteDance พยายามแสดงความจริงใจโดยการลงทุนจำนวนมากเพื่อตั้งศูนย์เก็บข้อมูล (Data Center) ในแผ่นดินสหรัฐฯ เพื่อลบล้างความกังวลของชาวอเมริกัน แต่ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เป็นผล เมื่อผู้แทนประชาชนในสหรัฐฯ โหวตผ่านร่างกฎหมายนี้ และนายโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้กฎหมายนี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯ แบนบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนที่เริ่มเติบโตจนมีโอกาสแซงบริษัทสัญชาติอเมริกัน ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง เพราะก่อนหน้านี้ Huawei เป็นเจ้าแรกที่ถูกสหรัฐฯแบนจนต้องออกระบบปฎิบัติการ HamonyOS ของตัวเองออกมาแทนระบบ Android ของ Google ที่เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

related