svasdssvasds

รู้หรือไม่ คนที่ชอบกดอีโมจิ "Care" พูดไม่ค่อยเก่ง แต่ซับพอร์ตใจแบบเงียบ ๆ

รู้หรือไม่ คนที่ชอบกดอีโมจิ "Care" พูดไม่ค่อยเก่ง แต่ซับพอร์ตใจแบบเงียบ ๆ

รู้หรือไม่ คนที่ชอบกดอีโมจิ "Care" มีแนวโน้มพูดไม่ค่อยเก่ง แต่ซับพอร์ตใจแบบเงียบ ๆ งานวิจัยระบุ คนที่เลือกกดใช้อีโมจินี้มักมีแนวโน้มเป็นผู้สนับสนุนแบบเงียบๆ (silent supporter)

SHORT CUT

  • อีโมจิ ‘Care’ ของ Facebook คือภาษากายดิจิทัลที่สื่อถึงความห่วงใย โดยเปิดตัวในช่วงโควิด-19 เพื่อให้ผู้คนใกล้ชิดทางใจแม้ต้องเว้นระยะห่างทางกายภาพ
  • มันถูกออกแบบมาเติมเต็มช่องว่างระหว่าง ‘Like’ กับ ‘Love’ ใช้แสดงความเห็นใจในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน เช่น ความสูญเสียหรือความเจ็บป่วย
  • การใช้ ‘Care’ อย่างเหมาะสมช่วยสร้างความอบอุ่นใจให้ผู้รับ แต่ควรระวังไม่ใช้ในบริบททั่วไปเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดในการสื่อสาร

รู้หรือไม่ คนที่ชอบกดอีโมจิ "Care" มีแนวโน้มพูดไม่ค่อยเก่ง แต่ซับพอร์ตใจแบบเงียบ ๆ งานวิจัยระบุ คนที่เลือกกดใช้อีโมจินี้มักมีแนวโน้มเป็นผู้สนับสนุนแบบเงียบๆ (silent supporter)

ในยุคที่การสื่อสารผ่านหน้าจอแทบจะกลายเป็นภาษาหลักของมนุษย์ อีโมจิ 'Care' ของ Facebook ไม่ใช่แค่ภาพหน้ายิ้มกอดหัวใจ แต่มันคือภาษากายดิจิทัลที่ส่งต่อความห่วงใยแบบไร้คำพูด เปิดตัวในเดือนเมษายน 2020 ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผู้คนทั่วโลกต้องเว้นระยะห่างทางกายภาพ แต่ยังคงต้องการใกล้ชิดทางใจ

อีโมจิ 'Care' คืออะไร ? 

'Care' เป็นหนึ่งในปุ่มปฏิกิริยา (Reaction) ของ Facebook ที่แสดงภาพหน้ายิ้มกอดหัวใจสีแดง ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่าง 'Like' ที่อาจดูเบาเกินไป และ 'Love' ที่อาจดูแรงเกินไปในบางบริบท โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้ต้องการแสดงความเห็นใจหรือสนับสนุนในสถานการณ์ที่ผู้โพสต์กำลังเผชิญกับความยากลำบาก เช่น การสูญเสียหรือความเจ็บป่วย

จุดประสงค์ของอีโมจิ 'Care' 

Facebook ออกแบบอีโมจินี้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแสดงความห่วงใยและสนับสนุนกันในช่วงวิกฤต COVID-19 โดยเป็นการสื่อสารแบบไม่รุกเร้า (non-intrusive empathy) ที่ไม่สอน ไม่แก้ไข แต่อยู่ข้างๆ อย่างสงบ มันต่างจาก 'Like' ที่เน้นการเห็นด้วย หรือ 'Love' ที่อาจดูแรงเกินไปในบางบริบท ในโพสต์ที่เศร้าหรือสะเทือนใจ เรามักรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้รับ 'Care' เพราะมันแปลว่า "ฉันจะอยู่กับคุณ โดยไม่ต้องพูดอะไรก็ได้"

สมองมนุษย์ตอบสนองต่อ 'Care' อย่างไร ? 

งานวิจัย พบว่าแม้เพียงการเห็นอีโมจิที่สื่อถึงการกอด จะสามารถกระตุ้นสมองส่วนที่สัมพันธ์กับความผูกพันได้ใกล้เคียงกับการได้รับสัมผัสจริง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมบางครั้งแค่เห็น 'Care' จากเพื่อน ใจเราก็เบาขึ้นทันที

แล้วใครคือผู้ใช้ 'Care' ตัวจริง ? 

ขณะที่ นพ.เจษฎา ทองเถาว์ แพทย์เฉพาะทางสาขาจิตเวชศาสตร์ จิตแพทย์ประจำ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี ได้โพสต์ข้อความลงบน Facebook  "คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา" ระบุว่า "เมื่อจิตแพทย์รีวิว Emoji “Care” "ไม่ใช่แค่อีโมจิแต่มันคืออ้อมกอดระยะไกล”

คนที่เลือกกดใช้อีโมจินี้มักมีแนวโน้มเป็นผู้สนับสนุนแบบเงียบๆ (silent supporter) พวกเขามักไม่ค่อยชอบคอมเมนต์ยาวๆ ไม่ต้องรู้จักกันลึก แต่การกด 'Care' คือการยืนยันว่า "ฉันเห็นความรู้สึกของเธออยู่" มีผู้ใช้คนหนึ่งเคยกล่าวว่า "วันที่หนูโพสต์ว่าคิดถึงพ่อที่เพิ่งจากไป ไม่มีใครมาคอมเมนต์เลยค่ะ แต่มีคนมากด 'Care' 14 คน หนูดูอยู่หลายรอบมาก มันช่วยให้หนูไม่รู้สึกโดดเดี่ยว"

ข้อควรระวังในการใช้งาน อีโมจิ  'Care' 

  • ใช้ในบริบทที่เหมาะสม: ควรใช้เมื่อคุณต้องการแสดงความห่วงใยหรือสนับสนุนในสถานการณ์ที่ผู้โพสต์กำลังเผชิญกับความยากลำบาก.
  • หลีกเลี่ยงการใช้ในโพสต์ทั่วไป: การใช้ในโพสต์ที่ไม่มีเนื้อหาที่ต้องการความเห็นใจอาจทำให้ผู้รับรู้สึกไม่สบายใจ.
  • สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา: หากต้องการแสดงความห่วงใยอย่างจริงใจ การแสดงความคิดเห็นด้วยคำพูดอาจสื่อสารได้ดีกว่าอีโมจิ.

อีโมจิ 'Care' เป็นการสื่อสารในโลกยุคดิจิทัล เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการแสดงความห่วงใยและสนับสนุนกันในโลกออนไลน์ แต่การใช้งานควรพิจารณาบริบทและความเหมาะสม เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด.

ในโลกที่การสื่อสารผ่านหน้าจอเป็นเรื่องปกติ 'Care' คือการกอดที่ส่งผ่านดิจิทัล เป็นการบอกว่า "ฉันอยู่ตรงนี้กับคุณ" โดยไม่ต้องพูดอะไรเลย.

ที่มา : คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา techcrunch  sperlinginteractive 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related