SHORT CUT
ไมโครซอฟท์ปลดพนักงาน 6,000 คนทั่วโลก ราว 3% - ออกแบบองค์กรใหม่” เพื่อเตรียมพร้อมรับคลื่นลูกใหญ่ของเทคโนโลยี AI
แม้ผลประกอบการจะแรงเกินคาด แต่ บิ๊กเทคฯ อย่าง Microsoft ไมโครซอฟท์ เลือกตัดสินใจ “ปรับโครงสร้าง” ครั้งใหญ่ ด้วยการปลดพนักงานราว 3% ของทีมงานทั่วโลก หรือคิดเป็นประมาณ 6,000 ตำแหน่ง จากการรายงานของ cnbc
นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่เพียงแค่ “ลดคน” แต่คือการ “ออกแบบองค์กรใหม่” เพื่อเตรียมพร้อมรับคลื่นลูกใหญ่ของเทคโนโลยี AI
“เรากำลังสร้างองค์กรที่คล่องตัวขึ้น เพื่อพร้อมเผชิญการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว” โฆษกไมโครซอฟท์ กล่าวกับ CNBC
ไมโครซอฟท์ยืนยันว่าการปลดพนักงานครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับผลการประเมินบุคคล ต่างจากรอบก่อนหน้าที่มุ่งจัดการกับ “ทีมที่ไม่ตรงเป้าหมาย” ครั้งนี้ คือการลด “ลำดับชั้นที่ไม่จำเป็น” โดยเฉพาะในระดับบริหารและส่วนงานที่ซ้อนทับ โดยที่วอชิงตันเปิดเผยว่า พนักงานกว่า 1,985 คนในสำนักงานใหญ่เรดมอนด์ได้รับผลกระทบ รวมถึงพนักงานออฟฟิศกว่า 1,500 คน
ประเด็นที่น่าสนใจคือ — การปลดพนักงานครั้งนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางผลประกอบการที่ดีเกินคาด ไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศรายได้สุทธิ 25.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด และราคาหุ้นก็แตะระดับสูงสุดของปีที่ 449.26 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สูงสุดตลอดกาลยังอยู่ที่ 467.56 ดอลลาร์ เมื่อก.ค. ปี 2024
แต่เบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้คือความท้าทาย รายได้จากบริการคลาวด์ Azure เริ่มชะลอตัวในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับ AI ขณะที่ AI Cloud กลับทำผลงานทะลุเป้า
สัตยา นาเดลลา (Satya Nadella) ซีอีโอของบริษัท ระบุเมื่อช่วงต้นปี 2025 ว่าไมโครซอฟท์กำลังปรับ “การออกตลาด” (go-to-market) ให้สอดรับกับยุค AI-first อย่างเต็มรูปแบบ “ในยุคเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี คุณต้องกล้าปล่อยของเดิม และหันไปโอบรับสิ่งใหม่”
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่แค่ไมโครซอฟท์ที่ลดคน คลื่นความเปลี่ยนแปลงไม่ได้กระทบแค่ยักษ์ใหญ่จากในวงการเทคฯ
• Amazon เคยประกาศปลดพนักงาน หลังพบว่าองค์กรมี “ชั้นของผู้บริหาร” มากเกินไป
• CrowdStrike บริษัทซอฟต์แวร์ความปลอดภัย ก็เพิ่งลดพนักงานลง 5% เช่นกัน
ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นทิศทางเดียวกัน — บริษัทเทคโนโลยีกำลัง “รีเซ็ต” เพื่อเร่งความเร็วเข้าสู่ยุค AI
การปลดพนักงานของไมโครซอฟท์อาจดูสวนทางกับตัวเลขผลประกอบการ แต่หากมองให้ลึก นี่คือหมากสำคัญในกระดานธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนเกมครั้งใหญ ในโลกที่ “AI” ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่กลายเป็น “โครงสร้างหลัก”
บริษัทใดที่ปรับตัวได้ก่อน ย่อมมีสิทธิ์นำเกม
และวันนี้ ไมโครซอฟท์ตัดสินใจแล้ว — ว่าจะไม่อยู่เฉยในยุคของการเปลี่ยนผ่าน
ที่มา : cnbc.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง