เปิดประวัติ Alexandr Wang ม้ามืดวงการ AI เป็นมหาเศรษฐีในเวลา 5 ปี

โลกเทคโนโลยีกำลังจับตามองการเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อ Meta ประกาศเข้าลงทุนมูลค่ามหาศาลถึง $14,300 ล้านใน Scale AI

ดีลครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้มูลค่าของ Scale AI พุ่งทะยานสู่ระดับ $29,000 ล้าน แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงบทใหม่ของสงคราม AI ที่กำลังทวีความเข้มข้นขึ้นทุกขณะ 

Alexandr Wang ผู้ก่อตั้งบริษัท กำลังก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอเพื่อไปนำทัพวิจัย "ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง" ให้กับ Meta โดยตรง

เรื่องราวของ Alexandr Wang ไม่ได้เริ่มต้นในซิลิคอนแวลลีย์ แต่เขาได้หยั่งรากลึกในลอสอลามอส เมืองประวัติศาสตร์แหล่งกำเนิด "ระเบิดปรมาณู"

เขาเติบโตท่ามกลางบทสนทนาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และความมั่นคงของชาติ เนื่องจากพ่อและแม่ของเขาเป็นนักฟิสิกส์ในโครงการของรัฐบาล

รากฐานนี้ได้หล่อหลอมให้เขามีมุมมองที่แตกต่างและนำไปสู่การก่อตั้ง Scale AI ในปี 2016 ด้วยวัยเพียง "19 ปี" หลังลาออกจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT)

ปี 2021 Alexandr Wang ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นมหาเศรษฐีที่สร้างตัวด้วยตัวเอง ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกด้วยวัยเพียง "24 ปี" 

ความสำเร็จนี้ตามมาด้วยการยอมรับจากสถาบันชั้นนำมากมาย เช่น การติดอันดับ Forbes 30 Under 30 และ Time 100 AI ซึ่งตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะผู้นำแถวหน้าของวงการ

หัวใจแห่งความสำเร็จของ Wang คือการมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองข้าม ในยุคที่ทุกคนมุ่งไปที่อัลกอริทึม เขาตระหนักว่าคอขวดที่แท้จริงคือ "ข้อมูลคุณภาพสูง" 

รากฐานของ Scale AI คือแพลตฟอร์มที่ผสมผสาน AI และมนุษย์นับแสนคนทั่วโลกเพื่อเป็น "โรงหล่อข้อมูล" ที่ขาดไม่ได้สำหรับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ตั้งแต่รถยนต์ไร้คนขับไปจนถึง Generative AI

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ผลักดันให้ Wang ก้าวจากผู้ประกอบการสู่ผู้มีบทบาทเชิงภูมิรัฐศาสตร์คือการเดินทางไปเยือนจีนในปี 2018

ภาพที่เขาเห็นจากเทคโนโลยีสอดแนมของจีนทำให้เขาเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯ ต้องเอาชนะใน "สงคราม AI" ให้ได้

นับจากนั้น Wang ได้นำพา Scale AI เข้าสู่วงการความมั่นคงอย่างเต็มตัว ทำสัญญากับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) สำหรับภารกิจด้านความมั่นคงโดยเฉพาะ

วิสัยทัศน์ของ Wang มองว่า "ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง" อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม และการพัฒนานั้นเชื่อมโยงโดยตรงกับ "ความมั่นคงของชาติ"

เขาย้ำว่าความเสี่ยงที่แท้จริงไม่ใช่การที่ "หุ่นยนต์จะครองโลก" แต่คือการที่ระบอบอำนาจนิยมมีความได้เปรียบทางเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด

Wang เชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (AGI) นั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม โดยอาจเกิดขึ้นได้ภายใน 2-4 ปีข้างหน้า

เขานิยาม AGI ในเชิงปฏิบัติว่าคือระบบ AI ที่สามารถทำงานในฐานะ "พนักงานทางไกล" ที่มีความสามารถครบถ้วน สามารถใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องมือต่างๆ ได้เช่นเดียวกับมนุษย์

ที่มา : Forbes, Republicworld