“หน้าสินค้าขึ้นราคาหนึ่ง กดเข้าไปหน้าจ่ายเงินขึ้นอีกราคาหนึ่ง” “ร้านออนไลน์ใช้วิธีขึ้นราคาสินค้า แล้วทำเป็นลดราคา สรุปได้ราคาก่อนลด” ทำความเข้าใจสารพัดกลวงร้านค้าออนไลน์
จริงอยู่ที่ผู้บริโภคต้องเลือกซื้อสินค้าอย่างมีสติ แต่เจอวิธีลวงล่อของร้านค้าเข้าไป แม้ไม่ได้หลอก แต่บอกไม่หมด แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่มันน่าหงุดหงิดสุด ๆ ไปเลยว่าไหม งั้นไปแกะวิธีลวงผู้บริโภคในโลกอีคอมเมิร์ชเพื่อเพิ่มภูมิต้านทานกัน
แน่นอนว่า “ราคา” คือปัจจัยสำคัญว่าเราจะเลือกซื้อสินค้าชิ้นนั้นไหม แพงไปก็รอก่อน หรือถ้าถูกมาก ก็กดซื้อได้เลยโดยไม่ต้องคิด ดังนั้น บรรดาร้านค้าออนไลน์จึงคิดสารพัดวิธีมาดึงดูดผู้บริโภคให้กดเข้าไปหน้าร้าน หรืออย่างน้อย ให้มีคนเข้ามาดูสินค้ามากที่สุด
จึงเกิดเป็นปรากฏการณ์ “แข่งกันถูก” และ “แข่งกันลดราคา” สมมติเรากำลังจะซื้อรองเท้าวิ่งสักคู่ มีหลายร้านขายสินค้าเดียวกัน วิธีลวงคือ ใส่คำว่า Sale หรือ โชว์ให้เห็นว่าสินค้าร้านนี้ถูกกว่าร้านอื่น ๆ ผู้บริโภคก็พุ่งมาร้านนี้แทน
เนื่องจากบทความนี้จะกล่าวถึงกลวิธีที่เกิดขึ้นในอีคอมเมิร์ชเท่านั้น กลวิธีหน้าร้านจึงขอละเว้นไว้ แต่เราได้รวบรวมเคสที่ผู้บริโภคเจอกันบ่อย ๆ เวลาจะซื้อของออนไลน์ เรามาไล่เรียงกันไปทีละข้อ
สินค้าแทบทุกชนิดล้วนใช้วิธีการทำนองนี้ทั้งสิ้น ซึ่งสามารถถกเถียงกันได้ ฝ่ายหนึ่งบอกว่านี่เป็นกลยุทธ์การขาย เป็นเทคนิคดึงดูดผู้บริโภค ใคร ๆ ล้วนทำกันเป็นล่ำเป็นสัน แม้โจทย์คือ การตั้งราคาให้ถูก เล่นเกมจิตวิทยา แต่วิธีการดูจะหลอกล่อและขาดความรับผิดชอบไปสักหน่อย
กลับกัน ฝ่ายผู้บริโภคมองว่านี่มันคือ Fake price ชัด ๆ หรือ “ลดแบบไม่ลด” ซึ่งไม่มีนิยามตายตัว แต่ที่ลิสต์ให้ด้านบนนั้นก็เข้าข่ายทั้งหมด จริงอยู่ที่ทุกอย่างอยู่ที่ปลายมือเรา เราเลือกได้ว่าจะกดหรือไม่กดซื้อ
แต่ฝ่ายผู้บริโภคก็มีความคาดหวังว่าสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยจัดระเบียบตลาดออนไลน์ ให้เป็นตลาดซื้อขายสินค้าที่เป็นธรรม มิใช่เต็มไปด้วยเล่ห์กลการหลอกลวง ซึ่งมีแต่ชวนจะหัวเสียเปล่า ๆ
คุณคิดเห็นอย่างไร เคยเจอกลแบบไหนบ้าง มาแชร์ประสบการณ์กันได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง