svasdssvasds

Chat GPT ส่อแววเป็นนักบำบัดแห่งอนาคต คนเชื่อมากกว่านักบำบัด

Chat GPT ส่อแววเป็นนักบำบัดแห่งอนาคต คนเชื่อมากกว่านักบำบัด

Chat GPT ให้คำแนะนำด้านจิตวิทยาได้ทัดเทียมนักบำบัดจริง งานวิจัยชี้ผู้ใช้งานรู้สึกเข้าใจ เห็นใจ และเข้าถึงง่ายกว่า—สัญญาณว่า AI อาจเป็นทางออกใหม่ของการ บำบัดในอนาคต

AI chatbots อย่าง ChatGPT อาจเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบำบัดสุขภาพจิตในไม่ช้า จากการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLOS Mental Health งานวิจัยชี้ว่าผู้คนผู้คนแยกไม่ออกว่าใครตอบ ระหว่างนักบำบัดจริง ๆ กับ AI แถมยัง ชอบคำแนะนำจาก AI มากกว่า ในหลาย ๆ กรณีด้วยซ้ำ

ในการศึกษาครั้งนี้ นักวิจัยให้ผู้เข้าร่วมอ่านสถานการณ์ที่คู่รักมีปัญหา และให้คำตอบจาก 2 แหล่ง: นักบำบัดจริง กับ ChatGPT ผลคือ ผู้เข้าร่วมทายว่าคำตอบมาจากนักบำบัดจริง 56.1% และทายว่ามาจาก ChatGPT 51.2% ของเวลา ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า คนส่วนใหญ่แยกไม่ออกจริง ๆ ว่าใครเป็นคนตอบกันแน่

ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ ผู้เข้าร่วมมัก ชอบคำตอบของ ChatGPT โดยเฉพาะในด้านการทำความเข้าใจผู้พูด การแสดงความเห็นอกเห็นใจ และการแสดงความสามารถทางวัฒนธรรม ความชอบนี้ชี้ให้เห็นว่า AI มีศักยภาพที่จะ ปรับปรุงกระบวนการบำบัดทางจิต ซึ่งเปิดช่องทางใหม่สำหรับการพัฒนาและทดสอบการบำบัดสุขภาพจิต

Chat GPT ส่อแววเป็นนักบำบัดแห่งอนาคต คนเชื่อมากกว่านักบำบัด

ทังนี้ทั้งนั้น ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันมานานแล้วว่า AI สามารถเข้ามาช่วยงานด้านจิตวิทยาได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแชทบอทบำบัด เครื่องมือช่วยจดบันทึก หรือการฝึกอบรมที่ฉลาดขึ้น สมาคมจิตวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกาเคยบอกไว้เมื่อปี 2023 ว่าเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ทำให้การบำบัดเข้าถึงง่ายขึ้น ราคาถูกลง และยังเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่มีความวิตกกังวลทางสังคมที่อาจไม่กล้าคุยกับนักบำบัดที่เป็นคน

แม้ว่าการถกเถียงเรื่อง AI จะเข้ามาเป็นนักบำบัดได้จริงหรือไม่จะมีมาตั้งแต่ยุคของแชทบอท ELIZA ในปี 1966 แต่ผลการศึกษาใหม่นี้บอกว่า "คำตอบอาจจะเป็นไปได้"

ผู้เขียนงานวิจัยจึงเรียกร้องให้ทั้งประชาชนและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ร่วมกันตั้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับจริยธรรม ความเป็นไปได้ และประโยชน์ของการนำ AI มาใช้ในการรักษาสุขภาพจิต ก่อนที่เทคโนโลยีนี้จะก้าวไปไกลจนยากที่จะหยุดยั้งได้

related