svasdssvasds

Spotify เปิดตัว "Mix" เปลี่ยนเพลย์ลิสต์ให้เหมือนดีเจมิกซ์สด

Spotify เปิดตัว "Mix" เปลี่ยนเพลย์ลิสต์ให้เหมือนดีเจมิกซ์สด

Spotify เปิดตัว "Mix" ฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชันเบต้าสำหรับผู้ใช้ Premium ให้คุณเปลี่ยนเพลย์ลิสต์ธรรมดาให้กลายเป็นมิกซ์เซ็ตสุดเจ๋ง ต่อเพลงได้เนียนเหมือนดีเจ

SHORT CUT

  • Spotify เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ "Mix" ปรับแต่งเพลงได้ครบครัน ตั้งแต่การตั้งค่าพื้นฐานอย่าง "Fade" และ "Rise" ไปจนถึงการควบคุม EQ, ระดับเสียง และเอฟเฟกต์ โดยดูข้อมูล Waveform และจังหวะเพลงประกอบ เพื่อหาจุดเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบที่สุด
  • ผู้ใช้ Spotify Premium สามารถใช้ฟีเจอร์ "Mix" เพื่อสร้างทรานซิชันระหว่างเพลงได้อย่างราบรื่น ทั้งแบบอัตโนมัติและปรับแต่งเองโดยละเอียด ทำให้การฟังเพลงต่อเนื่องและได้อารมณ์เหมือนฟังดีเจมิกซ์สด
  • ฟีเจอร์ "Mix" กำลังอยู่ในช่วงทดสอบและจะทยอยเปิดให้ผู้ใช้ Spotify Premium ที่มีสิทธิ์ได้ใช้งานก่อน ยังไม่มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ผู้ใช้ควรอัปเดตแอปให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อรอรับฟีเจอร์ใหม่นี้

Spotify เปิดตัว "Mix" ฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชันเบต้าสำหรับผู้ใช้ Premium ให้คุณเปลี่ยนเพลย์ลิสต์ธรรมดาให้กลายเป็นมิกซ์เซ็ตสุดเจ๋ง ต่อเพลงได้เนียนเหมือนดีเจ

Spotify แพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงยักษ์ใหญ่ เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด "Mix" ซึ่งเป็นเครื่องมือมิกซ์เพลงที่ถูกเพิ่มเข้ามาในเพลย์ลิสต์

ฟีเจอร์ "Mix" ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงทดสอบ (Beta) และทยอยเปิดให้ผู้ใช้ Premium ที่มีสิทธิ์ได้ทดลองใช้งาน ผู้ใช้งาน Spotify Premium จะสามารถมิกซ์เพลงได้อย่างไร้รอยต่อ เสมือนมีดีเจส่วนตัวมามิกซ์เพลงให้ฟัง

 

วิธีใช้ฟีเจอร์ "Mix" บน Spotify

CREDIT : Spotify

ผู้ใช้งานที่มีสิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์นี้ จะพบปุ่ม "Mix" ปรากฏขึ้นในแถบเครื่องมือของเพลย์ลิสต์ที่สร้างไว้ 

  • Auto Mix : สำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว เพียงแค่กดปุ่ม "Auto" ระบบก็จะทำการผสมผสานการเปลี่ยนผ่านระหว่างเพลงในเพลย์ลิสต์ให้โดยอัตโนมัติ
  • Custom Mix : สำหรับผู้ที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และควบคุมได้ดั่งใจ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการเปลี่ยนผ่านระหว่างเพลงได้อย่างละเอียด โดยมีเครื่องมือให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
  • Presets : ตั้งค่าสำเร็จรูปอย่าง "Fade" (เสียงค่อยๆ จางลง) หรือ "Rise" (เสียงค่อยๆ ดังขึ้น)
  • Manual Controls : ปรับแต่งเส้นกราฟของระดับเสียง (Volume), EQ และเอฟเฟกต์ต่างๆ ได้ด้วยตนเอง
  • Visual Data : มีการแสดงข้อมูล Waveform และจังหวะของเพลง (Beat Data) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้หาจุดเชื่อมต่อระหว่างเพลงที่ดีที่สุดได้ง่ายขึ้น

เมื่อปรับแต่งจนพอใจแล้ว ผู้ใช้สามารถกด "Save" เพื่อบันทึกเพลย์ลิสต์เวอร์ชันมิกซ์ไว้ฟังได้ทันที และยังสามารถแชร์หรือชวนเพื่อนที่เป็นสมาชิก Premium มาร่วมกันสร้างสรรค์เพลย์ลิสต์แบบมิกซ์ได้อีกด้วย หากต้องการกลับไปฟังเวอร์ชันปกติ ก็สามารถกดปุ่ม "Mix" เพื่อเปิด-ปิดฟังก์ชันนี้ได้ทุกเมื่อ

Spotify ระบุว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ แต่เป็นการมอบเครื่องมือให้ผู้ใช้ได้แสดงออกถึงความเป็นตัวเองผ่านเสียงเพลง

ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเพลย์ลิสต์สำหรับงานปาร์ตี้, จัดเพลย์ลิสต์สำหรับวิ่งออกกำลังกายเพื่อรักษาความเร็ว หรือแม้กระทั่งการสร้างเพลย์ลิสต์สำหรับการเดินทางไกลเพื่อคงบรรยากาศดีๆ ไว้ตลอดเส้นทาง

นอกจากนี้ Spotify ยังได้ให้คำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากลองมิกซ์เพลงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เช่น การเลือกเพลงที่มีจังหวะ (BPM) และคีย์ (Camelot Key) ใกล้เคียงกัน ซึ่งในฟีเจอร์ Mix จะแสดงข้อมูลเหล่านี้ให้โดยอัตโนมัติ รวมถึงการเริ่มต้นกับแนวเพลงที่เหมาะกับการมิกซ์อย่าง House หรือ Techno

ขณะนี้ฟีเจอร์ "Mix" ยังไม่มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบ และกำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ Premium บางส่วนได้ทดลองใช้ ดังนั้น ใครที่อยากลองใช้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปพลิเคชัน Spotify เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ

ที่มา : Spotify

related