SHORT CUT
การอัปโหลดรูปให้ AI สร้างภาพ เสี่ยงสูญเสียการควบคุมข้อมูลใบหน้าถาวร อาจถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย และตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพได้ รวมความเสี่ยงที่คนใช้ AI ควรรู้
Generative AI ได้กลายเป็นเทรนด์บนโลกโซเชียลมีเดียในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะสร้างจากแอปฯยอดฮิตอย่าง Gemini หรือ ChatGPT ซึ่งเปิดให้ใครก็ได้สามารถสร้างสรรค์ผลงานภาพใหม่ๆ จากคำสั่ง Prompt
แต่การอัปโหลดภาพตัวเองลงไปให้ AI สร้างภาพนั้น อาจมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ ที่ทุกคนควรรู้และศึกษาไว้ เบื้องหลังความสนุกและความสะดวกสบายนั้น มี "ราคาที่ต้องจ่าย" นั่นคือความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลใบหน้า ซึ่งอาจไม่ได้เป็นของคุณอีกต่อไปเมื่อกดปุ่มอัปโหลด
ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดคือ ภาพถ่ายส่วนตัวและคำสั่ง (Prompt) ของคุณ อาจถูกนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของชุดข้อมูลสำหรับฝึกฝน AI โดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อข้อมูลเข้าสู่ระบบแล้ว ผู้ใช้จะสูญเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิง และแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะลบออก
กรณีศึกษาที่ชัดเจนคือแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง Lensa AI ซึ่งระบุในนโยบายอย่างชัดเจนว่า บริษัทได้รับสิทธิ์ในการใช้ภาพที่ AI สร้างขึ้นอย่าง "ถาวร, เพิกถอนไม่ได้, และไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทน"
ยิ่งไปกว่านั้น การเก็บข้อมูลมักจะไปไกลกว่าแค่ภาพถ่าย แอปฯ จำนวนมากขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์เกินความจำเป็น เช่น กล้อง, ไมโครโฟน, ตำแหน่งที่ตั้ง, ไปจนถึงรายชื่อผู้ติดต่อ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกนำไปใช้วิเคราะห์และติดตามพฤติกรรมของคุณนอกแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างโปรไฟล์สำหรับวัตถุประสงค์ทางการตลาดต่อไป
ซึ่งหมายความว่าบริษัทสามารถนำภาพใบหน้าของผู้ใช้ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ ก็ได้ แม้ผู้ใช้จะลบภาพต้นฉบับไปแล้ว แต่ "ข้อมูลใบหน้า" (Face Data) ก็อาจถูกนำไปใช้ฝึกฝน AI ต่อไป
ความนิยมของแอปฯ AI ได้กลายเป็นช่องทางของอาชญากรไซเบอร์ในการเผยแพร่มัลแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว, แอปฯ ที่หลอกให้สมัครสมาชิกราคาแพงและแอปฯ ที่เต็มไปด้วยโฆษณาก้าวร้าว
ความนิยมอย่างล้นหลามของแอปพลิเคชันแต่งภาพด้วย AI ได้กลายเป็นช่องทางให้เหล่าอาชญากรไซเบอร์ใช้แสวงหาผลประโยชน์ ทีมวิจัยของ McAfee Mobile ได้ค้นพบแอปพลิเคชันแต่งภาพจำนวนมากใน Google Play Store ที่เป็นเพียงโปรแกรมแก้ไขภาพพื้นฐาน แต่ถูกดัดแปลงและฝังมัลแวร์ไว้ภายใน
ตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวเสมอ : ก่อนใช้งาน อ่านเงื่อนไขให้เข้าใจว่าแพลตฟอร์มจะนำภาพของคุณไปทำอะไร เก็บไว้นานแค่ไหน และคุณมีสิทธิ์ขอลบข้อมูลได้หรือไม่
จำกัดการใช้ภาพถ่ายจริง : หากไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้ภาพถ่ายหน้าตรงที่ชัดเจน ลองใช้ภาพสัญลักษณ์ หรือภาพที่ผ่านการปรับแต่งเพื่อลดการระบุตัวตน (Anonymize)
ลบข้อมูล Metadata : ก่อนอัปโหลด ควรลบข้อมูลที่ระบุตำแหน่ง (GPS) และข้อมูลอุปกรณ์ออกจากไฟล์ภาพ เพื่อลดรอยเท้าดิจิทัล (Digital Footprint)
ใช้ภาพคุณภาพต่ำ : หากจำเป็นต้องใช้ภาพจริง การลดความละเอียดของภาพจะช่วยลดความเสี่ยงที่ภาพจะถูกนำไปสร้าง Deepfake ที่มีความสมจริงสูงได้
อย่าให้สิทธิ์เกินจำเป็น : ตรวจสอบเสมอว่าแอปฯ ขอเข้าถึงข้อมูลส่วนใดในโทรศัพท์บ้าง และให้สิทธิ์เท่าที่จำเป็นต่อการใช้งานเท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้ว แม้ Generative AI จะมอบเครื่องมือสร้างสรรค์อันทรงพลังมาสู่มือเรา แต่ความสะดวกสบายนั้นแลกมากับความรับผิดชอบที่ผู้ใช้ต้องตระหนักรู้
ความเสี่ยงจากการนำภาพส่วนตัวไปใช้นั้นมีอยู่จริงและหลากหลาย ตั้งแต่การถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว, การตกเป็นเหยื่อของเทคโนโลยี Deepfake, ไปจนถึงการถูกสวมรอยเพื่อก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ
ดังนั้น ก่อนจะอัปโหลดภาพถัดไป การป้องกันตนเองในโลกดิจิทัลจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ผู้ใช้ควรเริ่มต้นจากการตรวจสอบนโยบายของแพลตฟอร์มอย่างละเอียด, พิจารณาลบข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ (Metadata) ออกจากภาพ
ที่มา : breachrx, tigera, expressvpn, northeastern, McAfee