รู้หรือไม่ iPhone มีแร่หายาก แร่แรร์เอิร์ธ เป็นส่วนผสมโดยเฉลี่ยประมาณ 1-2 กรัม

ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอันรวดเร็ว ไม่มีอุปกรณ์ใดเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยได้ดีเท่า iPhone แต่ภายใต้รูปลักษณ์ที่เงางามและหน้าจอที่ล้ำสมัย หัวใจของมันเต้นด้วยจังหวะที่ซับซ้อนของวัสดุที่หาได้ยากยิ่ง นั่นคือ แร่หายาก (Rare Earth Elements - REEs) ความสัมพันธ์ระหว่าง Apple และแร่แรร์เอิร์ธ เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการจัดหาวัตถุดิบเท่านั้น แต่ยังเป็นประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรม ความยั่งยืน และความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานระดับโลกด้วย 

แรร์เอิร์ธ ใน iPhone

แร่หายากทั้ง 17 ชนิดเป็นขุมทรัพย์ทางเคมีที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว โดยเฉพาะด้าน แม่เหล็ก การเรืองแสง และการนำไฟฟ้า ซึ่งทำให้พวกมันเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ในเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น iPhone

หัวใจหลักที่ขับเคลื่อนอุปกรณ์:
แม่เหล็กหายาก (Rare Earth Magnets): แร่สำคัญอย่าง นีโอไดเมียม (Neodymium) ถูกใช้สร้างแม่เหล็กถาวรประสิทธิภาพสูง ซึ่งจำเป็นต่อชิ้นส่วนที่สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ธรรมดา :

• Taptic Engine: ระบบสั่นที่ให้การตอบสนองแบบสัมผัส (Haptic Feedback) ที่แม่นยำ
• ระบบลำโพงและไมโครโฟน: ตัวแปลงสัญญาณไฟฟ้าเป็นเสียงและกลับกัน
• กลไกออโต้โฟกัสของกล้อง: การเคลื่อนไหวที่แม่นยำเพื่อภาพที่คมชัด
• MagSafe: ส่วนประกอบสำหรับการชาร์จและยึดอุปกรณ์เสริมแบบแม่เหล็ก

แม้ iPhone แต่ละเครื่องจะบรรจุแร่หายากไว้เพียงเล็กน้อย ประมาณ 1-2 กรัม โดยเฉลี่ย แต่ปริมาณที่น้อยนิดนี้ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของอุปกรณ์ หากขาดไป ฟังก์ชันสำคัญเหล่านี้ก็จะหยุดชะงัก

เนื่องจากกระบวนการทำเหมืองแร่หายากแบบดั้งเดิมมักส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง และความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของแร่เหล่านี้ Apple จึงได้ก้าวเข้าสู่สนามรบด้านความยั่งยืนและการจัดการห่วงโซ่อุปทานด้วยความพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง

การบุกเบิกการรีไซเคิล

Apple คือบริษัทแรก ๆ ที่ผนวกแร่หายากที่ได้จาก การรีไซเคิล เข้ามาในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ปัจจุบันความสำเร็จที่โดดเด่นคือ แม่เหล็กเกือบทั้งหมด ในผลิตภัณฑ์ของ Apple ผลิตจาก แร่หายากที่รีไซเคิล 100% โดยเริ่มใช้ใน Taptic Engine ของ iPhone 11 ตั้งแต่ปี 2019

นอกจากนี้ การใช้หุ่นยนต์รีไซเคิลอย่าง Daisy ซึ่งสามารถถอดประกอบโทรศัพท์ได้มากถึง 1.2 ล้านเครื่องต่อปี และ Taz ซึ่งใช้เทคโนโลยีการทำลายขยะแบบใหม่เพื่อแยกแร่ธาตุมีค่า ทำให้ Apple สามารถคัดแยกและนำวัสดุกลับคืนมาได้มากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการใช้เพียงแค่วัสดุรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ในผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในสหรัฐฯ

เพื่อลดความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานและเสริมสร้างความมั่นคงของแหล่งวัตถุดิบ Apple ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ MP Materials ซึ่งเป็นผู้ผลิตแร่หายากแบบครบวงจรรายเดียวในสหรัฐฯ

งบลงทุน 500 ล้านดอลลาร์: Apple ลงทุนในข้อตกลงระยะยาวเพื่อจัดซื้อแม่เหล็กหายากที่ผลิตในสหรัฐฯ

สร้างโรงงานผลิตแม่เหล็กในเท็กซัส: ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันสร้างโรงงานที่ฟอร์ตเวิร์ธ รัฐเท็กซัส เพื่อผลิตแม่เหล็กนีโอไดเมียมสำหรับผลิตภัณฑ์ Apple โดยเฉพาะ

ศูนย์รีไซเคิลในแคลิฟอร์เนีย: มีการร่วมพัฒนาสายการรีไซเคิลแร่หายากขั้นสูงในเมืองเมาน์เทนพาส รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งจะสร้าง ระบบหมุนเวียน (Closed-Loop System) ที่รับวัตถุดิบจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่ากลับมาใช้ใหม่ในผลิตภัณฑ์ของ Apple

ที่มา : apple discoveryalert  apple