svasdssvasds

เปิดวิธีเอาตัวรอด ไม่ให้โดนหลอกจาก Deepfake

เปิดวิธีเอาตัวรอดจาก ไม่ให้โดนหลอกจาก Deepfake บริษัทด้านความปลอดภัย Kaspersky แนะอย่าเชื่อทุกอย่างที่เห็นบนอินเทอร์เน็ต

ถ้าพูดถึง Deepfake เราอาจจะเคยเห็นคำนี้จากข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้เทคดนโลยีนี้ในการหลอกคน แม้จะดูปลอมจนไม่รู้จะปลอมยังไง แต่ในต่างประเทศมันบียอนด์ไปไกลมากกว่านั้น

ก่อนจะไปต่อ เรามาทำความเข้าใจเรื่อง Deepfake ก่อน

เจ้าตัว Deepfake นี้เป็นเทคโนโลยีที่ใช้การเรียนรู้ของ Ai ในการศึกษาลักษณะ ท่าทาง และ ภาษากายของคนในคลิป แล้วมาสร้างเป็นคลิปปลอม ตามที่คนสร้างต้องการ

จุดเริ่มต้นของมันเกิดจากผู้ใช้ Reddit หรือคล้าย ๆ กับเว็บไซต์พันทิพย์เวอร์ชั่นต่างชาติ ปล่อยโค๊ตคำสั่งพื้นฐานในการทำให้ Ai เรียนรู้และสร้าง Deepfake เลยทำให้คนอื่น ๆ น้ำโค๊ตนี้แหละ มาต่อยอด ทำคลิปสนุกเฮฮา กันตามภาษาชาวเน็ต

เทคโนโลยีมันก็ดูสนุกนี่หน่า ทำไมมันเป็นภัยได้หละ ? คำถามนี้ต้องตอบด้วยคลิปนี้ เป็นคุณ คุณจะเชื่อไหม ?

ใช่ครับ นี่คือคลิปปลอมที่ใช้คนดัดเสียงเป็นพระพยอม เพื่อสร้างการเรียนรู้ของ กองทุนสื่อสร้างสรรค์ นี่ไม่ใช่คลิปแรกที่มีการทำในโลกอินเทอร์เน็ต แต่ยังมีการทำแบบนี้อีกมากมาย

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา อังกฤษ และ ฮ่องกง ถูกมิจฉาชีพหลอกโดยการใช้ Ai ปลอมเป็นเสียงผู้บริหาร แล้วสั่งโอนเงินจนเสียหายมาแล้วหลายสิบล้านบาท

ขณะเดียวกันตัว Deepfake ก็ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะใบหน้า เพราะมันถูกต่อยอดไปถึงขนาดที่ว่าทำให้ภาพคนที่อยู่เฉย ๆ ก็สามารถจับมาเต้นหรือทำท่าทางต่าง ๆ ได้เลย แม้ว่าตอนนี้มันจะยังไม่เนียนนัก

ดังนั้นเราเองก็ต้องระมัดระวังในการดูเรื่องราวต่าง ๆ และอย่าเชื่อทุกอย่างในอินเทอร์เน็ตแม้ว่ามันจะดูจริง จริงสุด ๆ มันก็อาจเป็นคลิปปลอมได้

ล่าสุด Kaspersky บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แนะนำวิธีป้องกันการถูกหลอกจาก Deepfake มาดังนี้

  1. ดูให้ดีว่าสิ่งที่เราเห็นคนในคลิปพูดมันดูเป็นไปได้ไหม ? บางครั้งพวกคลิป Deepfake หลอกลวงมักมาในคุณภาพวิดีโอที่ต่ำ ไฟล์ภาพแตก 
  2. สังเกตุให้ดีว่ามีการเคลื่อนไหวอะไรที่มันผิดเพี้ยนไหม
  3. อย่าโหลดไฟล์อะไรที่คลิปปลอมบอกให้โหลด

พอมาถึงตรงนี้มันก็ดูเหมือนว่า Deepfake ก็จะมีแต่โทษ แต่จริงๆ แล้วมันก็มีเรื่องดีของมันอยู่ เช่น การนำนักแสดงที่เสียชีวิตแล้วกลับมาสู่จอทีวี เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Star Wars Rouge One