กรมสรรพสามิตเตรียมเว้นภาษีธุรกิจสีเทา อาทิ อาบอบนวด ผับ บาร์ เพื่อช่วยลดผลกระทบจากโควิด-19 อีกทั้งยังคาดว่าจะเลื่อนการขึ้นภาษีบุรี่ไปก่อนด้วย
ข่าวล่าสุดจากแหล่งข่าวภายในกระทรวงสรรพสามิตได้ระบุว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงเพื่อให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีธุรกิจสถานบริการที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต เช่น ธุรกิจกลางคืน ผับ บาร์ ร้านอาหารจำหน่ายสุรา อาบอบนวด สนามม้า สนามกอล์ฟ เป็นต้น ซึ่งเป็นมาตรการทางภาษีสรรพสามิตเพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนาม ซึ่งคาดว่าจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาได้ภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีธุรกิจสถานบริการที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต มีทั้งสิ้น 5 ฉบับ ได้แก่
"การลดภาษีสรรพสามิตเป็นการลดภาษีชุดใหญ่เพื่อช่วยผู้ประกอบการทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ใช่แต่เฉพาะสินค้าที่เป็นสินค้าบาปเท่านั้น โดยร่างกฎกระทรวงทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้เร็ว ๆ นี้ และจะมีประกาศของกรมสรรพสามิตตามออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการทุกกลุ่ม"
นอกจากนี้ ยังมีการเลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่เป็น 40% เป็นครั้งที่ 2 หลังจาก ครม.เห็นชอบให้เลื่อนมีผลบังคับใช้ก่อนหน้านี้ จาก 1.ต.ค.2562 เป็น 1 ต.ค.2563 ดังนั้น ผลจากมติ ครม. ที่ให้มีการเลื่อนขึ้นภาษี จะทำให้ราคาบุหรี่ปรับราคาขึ้นช้าลงอีก 1 ปี โดยก่อนหน้านี้ โรงงานยาสูบ ประเมินว่า บุหรี่ที่ขายราคาต่ำสุดปัจจุบันที่ 60 บาทต่อซอง ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 80-90% ของตลาด หากมีการปรับภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 40% จะทำให้ราคาปรับขึ้นไปอยู่ที่ 93-100 บาทต่อซอง ซึ่งราคาดังกล่าว จะเริ่มมีผลในเดือน ต.ค.2564 หากไม่มีมติ ครม.ให้เลื่อนขึ้นภาษีออกไปอีก