อดีตผู้นำมาเลเซียให้การปฏิเสธ หลังถูกตั้ง 4 ข้อหาเอี่ยวทุจริต

นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้การว่าไม่ได้กระทำผิด หลังถูกตั้งข้อหารวมทั้งสิ้น 4 ข้อหาด้วยกัน โดย 3 ข้อหาแรกคือการทำประพฤติผิดในหน้าที่ ขณะที่อีกหนึ่งข้อหา คือ การใช้อำนาจในทางมิชอบ เชื่อมโยงกับกรณีทุจริตกองทุน วัน มาเลเซีย เดเวลอปเมนท์ เบอร์ฮาด หรือ 1MDB

เมื่อวานนี้ สื่อมาเลเซีย รายงานว่า นายนาจิบถูกตำรวจจับกุมตัวที่บ้านพักในกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนข้อกล่าวหายักยอกและฟอกเงินกองทุน 1MDB

ทั้งนี้ กฎหมายมาเลเซีย ระบุว่า ผู้กระทำผิดในข้อหาดังกล่าวต้องรับโทษจำคุกอย่างน้อย 2 ปี และ สูงสุด 20 ปี นอกจากนี้ ผู้กระทำผิดต้องเสียค่าปรับและถูกโบยด้วย แต่นายนาจิบอาจได้รับการยกเว้นเนื่องจากมีอายุเกิน 50 ปี

ด้าน ทอมมี โทมัส อัยการสูงสุดคนใหม่ของมาเลเซีย กล่าวว่า จะไม่คัดค้านการประกันตัวนายนาจิบ โดยตั้งวงเงินประกันตัวเป็นเงินสดพร้อมผู้ค้ำประกัน 2 คน ไว้ที่ 4ล้านริงกิต หรือราว 32 ล้านบาท ขณะเดียวกันเดียวกัน มีรายงานว่าศาลมีคำสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายนาจิบด้วย

นายนาจิบถูกกล่าวหาพัวพันการทุจริตเงินจำนวนมหาศาลกรณี SRC บริษัทในเครือของกองทุน 1MDB แต่ที่ผ่านมานาจิบปฏิเสธตลอดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจมาเลเซียเพิ่งแถลงยึดทรัพย์สินของนายนาจิบและภรรยารวมมูลค่า 9 พันล้านบาท โดยมีทั้งเครื่องประดับเพชรและทอง รวมทั้งกระเป๋ายี่ห้อแอร์เมสจำนวน 272 ใบ และของมีค่าอื่นๆ

ทั้งนี้ นายนาจิบ ถือ เป็น อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ถูกจับกัมตัวหลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งข้อกล่าวหาพัวพันทุจริตเงินกองทุน 1MDB เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา