svasdssvasds

LifeWear เสื้อผ้าเพื่อความยั่งยืน เรียบง่าย คุณภาพดี และใช้งานได้นาน

LifeWear เสื้อผ้าเพื่อความยั่งยืน เรียบง่าย คุณภาพดี และใช้งานได้นาน

วงการแฟชั่นในปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ซึ่ง LifeWear มีที่มาจากค่านิยมของชาวญี่ปุ่นในเรื่องความเรียบง่าย คุณภาพ และความยืนยาวใช้งานได้นาน

LifeWear เสื้อผ้าเพื่อความยั่งยืน เรียบง่าย คุณภาพดี และใช้งานได้นาน โคจิ ยาไน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด เผยถึงการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ไลฟ์แวร์ (LifeWear) ที่ต้องการผลิตเสื้อผ้าด้วยความเรียบง่าย คุณภาพดี และใช้งานได้นาน ซึ่งเป็นปรัชญาต้นแบบในอุตสาหกรรมของบริษัทฯ และยังได้เผยถึงรายละเอียดความคืบหน้าเกี่ยวกับการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การขยายการตรวจสอบแหล่งที่มา และการพัฒนาความโปร่งใส 

“ในช่วงปีที่ผ่านมาเราก้าวไปข้างหน้าด้านความคิดริเริ่มต่างๆ ที่มีเป้าหมายในการให้ลูกค้าเข้าถึงไลฟ์แวร์ (LifeWear) ได้มากขึ้น รวมถึงนำกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยพัฒนาชีวิตของผู้คนและสังคมทั่วโลก จากเสียงตอบรับของลูกค้าทั่วโลก บริษัทฯ ได้เริ่มโปรเจกต์ใหม่ๆ เช่น การบริการซ่อมแซมเสื้อผ้าผ่าน RE.UNIQLO STUDIO ของเรา และเพื่อการก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น ด้วยการร่วมมือกับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรต่างๆ (NGOs) บริษัทฯ ยังดำเนินงานต่อไปเพื่อเพิ่มความคิดริเริ่มใหม่ๆ เพื่อทำให้ไลฟ์แวร์ (LifeWear) เป็นหลักสำคัญเพื่อชีวิตและสังคมที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน”

LifeWear เสื้อผ้าเพื่อความยั่งยืน เรียบง่าย คุณภาพดี และใช้งานได้นาน ในปีที่ผ่านมาได้มีการดำเนินงานในด้านอัตราส่วนของวัสดุรีไซเคิล วัสดุที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ำที่ใช้ในกลุ่มบริษัทของฟาสต์ รีเทลลิ่งเพิ่มขึ้น 5% อย่างมั่นคง สำหรับสินค้าในปี 2565 เมื่อเทียบกับเป้าหมายในปี 2573 ที่ตั้งเป้าให้มีสัดส่วน 50% รวมถึงอัตราส่วนการใช้เส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่ได้จากการรีไซเคิลเพิ่มขึ้นประมาณ 16% เทียบกับการใช้โพลีเอสเตอร์ทั้งหมด และนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2565 เสื้อฟลีซขนนุ่มของยูนิโคล่ปี 2565 ได้ทำจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100% ซึ่งส่วนใหญ่ทำมาจากขวดพลาสติก (PET)

เนื้อหาที่น่าสนใจ :

LifeWear เสื้อผ้าเพื่อความยั่งยืน เรียบง่าย คุณภาพดี และใช้งานได้นาน ในส่วนของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของการผลิตเสื้อฟ้ายุคใหม่ LifeWear

ที่ร้านสาขาและสำนักงาน

เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2573 ร้านยูนิโคล่และสำนักงานในยุโรป อเมริกาเหนือ เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย ได้ปรับเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนแล้ว 100%

ระบบซัพพลายเชน

โรงงานคู่ค้าหลักผู้ผลิตสินค้าของยูนิโคล่ และ GU มากกว่า 90% ได้ยกระดับมาตรการการประหยัดพลังงาน ลดการใช้ถ่านหิน และเลือกใช้พลังงานหมุนเวียน แผนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กำลังดำเนินไปอย่างมั่นคง 

LifeWear เสื้อผ้าเพื่อความยั่งยืน เรียบง่าย คุณภาพดี และใช้งานได้นาน เซเรนา เพ็ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง และ ประธานฝ่ายดำเนินการและที่ปรึกษาทั่วไป บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง (สหรัฐฯ) พูดถึงเรื่องการพัฒนาบุคคลากร ความหลากหลาย และการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรในสหรัฐฯ เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งในการทำงานของสำนักงานใหญ่ของฟาสต์ รีเทลลิ่ง

การปรับวิธีการติดตามสภาพแวดล้อมของแรงงาน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ฟาสต์ รีเทลลิ่งได้นำโปรแกรม SLCP (Social and Labor Convergence Program) มาใช้ ซึ่งเป็นการระบบประเมินด้านอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำหรับโรงงานผลิต เพื่อประเมินความเสี่ยงและประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของแรงงาน รวมถึงการพัฒนาปัญหาดังกล่าว โปรแกรมนี้จะเริ่มใช้ในทุกๆ โรงงานผลิตเสื้อผ้าและโรงงานทอผ้าหลักๆ ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2566  

ขณะเดียวกันก็ได้ใช้มาตรการ Zero- Tolerance ในการทำข้อตกลงใดๆ เพื่อพิจารณาถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพิ่มความแข็งแกร่งในการตรวจสอบความเสี่ยงของสภาพแวดล้อมของแรงงานและการละเมิดสิทธิมนุษยชนใดๆ ก่อนที่จะเกิดความเสี่ยงขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการริเริ่มด้านกิจกรรมเพื่อสังคม ในปีงบประมาณ 2565 ฟาสต์ รีเทลลิ่ง สนับสนุนเงินจำนวน 8.8 พันล้านเยน ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ รวมถึงบริจาคเสื้อผ้าในจำนวน 6.98 ล้านชิ้น* เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมช่วยเหลือสังคม โดยมีจำนวนผู้ที่ได้รับประโยชน์จากกิจกรรมนี้มีถึง 7.49 ล้านคนทั่วโลก

ยูนิโคล่เปิดตัว PEACE FOR ALL โปรเจกต์เสื้อยืดการกุศลที่สื่อให้เห็นถึงความหวังของบริษัทในเรื่องของสันติภาพ ผลกำไรจากยอดขายของโปรเจกต์นี้ได้บริจาคและถูกจัดสรรไปยังองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ได้แก่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR), องค์การช่วยเหลือเด็กหรือ Save the Children และองค์การแพลน อินเตอร์เนชันแนล (Plan International) โดยช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2565 ยูนิโคล่บริจาคเงินจำนวนประมาณ 100.45 ล้านเยน ซึ่งกิจกรรมนี้ยังคงดำเนินต่อไปในอนาคต

และเพิ่มกิจกรรมความช่วยเหลือสำหรับผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น บริษัทกำลังเพิ่มการจ้างงานและการช่วยเหลือเพื่อตั้งรกรากสำหรับผู้ลี้ภัยจากยูเครน นอกจากนี้ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ได้ริเริ่มโปรเจกต์เพื่อช่วยเหลือด้านอิสรภาพของผู้หญิงพลัดถิ่นชาวโรฮิงญาที่ต้องการลี้ภัยไปยังบังกลาเทศอีกด้วย