svasdssvasds

ตะลึง! ไทยพบจุดความร้อนมากสุด "เขตป่าอนุรักษ์" ทั้งประเทศเกือบ 2,500 จุด

ตะลึง! ไทยพบจุดความร้อนมากสุด "เขตป่าอนุรักษ์" ทั้งประเทศเกือบ 2,500 จุด

GISTDA เผยข้อมูลจุดความร้อนไทยวานนี้ 2,455 จุด กาญจนบุรีพุ่งกว่า 500 จุด พบมากที่สุดในเขตป่าอนุรักษ์ ขณะที่เมียนมายังครองอันดับ 1 จุดความร้อนสูงสุด

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 ไทยพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้น 2,455 จุด ในขณะที่จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมายังครองอันดับหนึ่งอยู่ที่ 2,845 จุด รองลงมาคือไทย ตามด้วยกัมพูชา 1,877 จุด, สปป.ลาว 1,560 จุด, เวียดนาม 592 จุด และมาเลเซีย 15 จุด

สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทยที่พบมากสุด

  1. พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 990 จุด
  2. พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 748 จุด
  3. พื้นที่เกษตร 277 จุด
  4. พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 218 จุด
  5. พื้นที่เขต สปก. 203 จุด
  6. พื้นที่ริมทางหลวง 19 จุด

ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 4 อันดับคือ กาญจนบุรี 559 จุด, ตาก 276 จุด ,เพชรบูรณ์ 162 จุด และ ชัยภูมิ 144 จุด ตามลำดับ

จุดความร้อนไทยวานนี้ 2,455 จุด กาญจนบุรีพุ่ง 559 จุด พบมากสุดเขตป่าอนุรักษ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 09:00 น. พบว่าในหลายจังหวัดของพื้นที่ภาคเหนือ อาทิ แม่ฮ่องสอน น่าน เชียงใหม่ พะเยา ลำพูน ลำปาง ตาก เชียงราย อยู่ระดับที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ ในขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร อยู่ระดับดี แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา

สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม

ตะลึง! ไทยพบจุดความร้อนมากสุด "เขตป่าอนุรักษ์" ทั้งประเทศเกือบ 2,500 จุด Photo : Freepik

ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่

ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ GISTDA และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน "#เช็คฝุ่น"

ภาพ : Freepik

related