svasdssvasds

นกพัฟฟิน สัตว์ลำดับต่อไปที่เสี่ยงสูญพันธุ์ในศตวรรษนี้ เกิดอะไรขึ้น?

นกพัฟฟิน สัตว์ลำดับต่อไปที่เสี่ยงสูญพันธุ์ในศตวรรษนี้ เกิดอะไรขึ้น?

นกพัฟฟิน ญาติห่าง ๆ ของเพนกวินกำลังเสี่ยงสูญพันธุ์ เนื่องจากหาอาหารยากมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และมีการคาดการณ์ว่ามันจะสูญพันธุ์ในสิ้นศตวรรษนี้แล้ว

จะต้องสูญพันธุ์กี่ชนิดพันธุ์กันนะ! รายงานล่าสุดได้มีการเตือนว่า แหล่งวางไข่ของนกพัฟฟิน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปตะวันตก กำลังจะสูญหายไปภายในสิ้นศตวรรษนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน นั่นหมายความว่า พวกมันก็กำลังจะสูญพันธุ์ตามไปด้วย

ไม่เพียงแค่นกพัฟฟินเท่านั้น นกทะเลอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เว้นเสียแต่ว่าเราจะเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อลดอุณหภูมิของโลกได้ทันก่อนที่พวกมันจะสูญหายไป

นกพัฟฟิน (Puffin) Cr. Paul Broadbent/Alamy มีการคาดการณ์ว่า นกเรเซอร์บิล (razorbills) และนกนางนวลอาร์กติก จะสูญเสียแหล่งเพาะพันธุ์ถึง 80% และ 87% ตามลำดับ เนื่องจากศักยภาพในการเข้าถึงอาหารลดลงและสภาพอากาศที่มีพายุยังคงอยู่เป็นเวลานาน ทำให้ยากต่อการหาอาหาร และจะยากยิ่งขึ้นในเรื่องของการสืบพันธุ์

นักวิจัยจากสมาคมสัตววิทยาแห่งลอนดอน (ZSL) และมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์จึงได้จัดทำคู่มือเกี่ยวกับการปกป้องนกจากสภาพอากาศที่เลวร้ายลง โดยใช้ความเชี่ยวชาญของนักอนุรักษ์และผู้กำหนดนโยบาย 80 คนจาก 15 ประเทศในยุโรปมาร่วมกันหาทางออกให้กับนกเหล่านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แนวทางแรกในการให้คำแนะนำเพื่อปกป้องสัตว์ 47 ชนิดที่ขยายพันธุ์ตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ประเมินความต้องการเฉพาะของสปีชีส์และให้การดำเนินการที่จำเป็นในการอนุรักษ์ของสัตว์แต่ละชนิด

โดยมีทางออก เช่น นกจะสามารถย้ายไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยได้อย่างไรบ้าง เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนหนักจนทำให้เกิดคลื่นความร้อนและประชากรปลาก็ลดลง ทางออกประเด็นนี้คือ การส่งเสริมให้นกพัฟฟินเข้าสู่แหล่งเพาะพันธุ์ใหม่ให้สำเร็จด้วยการหลอกล่อจากการวางนกจำลองไว้ในนั้น และก็สามารถทำได้กับนกนางนวลด้วย โดยการหลอกล่อให้พวกมันไปยังแท่นวางไข่ที่มนุษย์ทำไว้ให้

การอยู่ร่วมกันของนกพัฟฟิน Cr. Alan BURGER / WWF-Canada Henry Häkkinen นักวิจัยปริญญาเอกจากสถาบัน ZSL Institute of Zoology ซึ่งเป็นผู้นำในการจัดทำคู่มือแนะนำนี้กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงว่านกพัฟฟินแอตแลนติก ซึ่งเป็นนกทะเลที่มีค่าที่สุดชนิดหนึ่งของยุโรป อาจหายไปจากชายฝั่งของเราภายในสิ้นศตวรรษนี้ควบคู่ไปกับสิ่งสำคัญอื่นๆ พวกนกทะเลชนิดหนึ่ง”

“นกเหล่านี้เผชิญกับความท้าทายเป็นสองเท่าเมื่อพวกมันผสมพันธุ์บนบกแต่ต้องพึ่งพาทะเลเพื่อความอยู่รอด การอาศัยอยู่ข้ามโลกทั้งสองนี้ พวกมันมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทั้งสองและทำให้เรามองเห็นสุขภาพของสัตว์ป่าในพื้นที่ที่ยากต่อการตรวจสอบของมหาสมุทร ซึ่งหมายความว่าการสูญเสียของพวกมันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ และการอนุรักษ์พวกมันอีกนับไม่ถ้วน”

Dr Nathalie Pettorelli หัวหน้าโครงการและนักวิจัยอาวุโสของ ZSL หล่าวเสริมว่า "แนวทางการอนุรักษ์นกทะเลเหล่านี้ - และกระบวนการที่อยู่เบื้องหลัง - เป็นกรอบการทำงานที่สำคัญและสามารถถ่ายโอนได้ซึ่งสามารถช่วยจัดลำดับความสำคัญและดำเนินการตามหลักฐานตามหลักฐาน แนวทางปฏิบัติในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อปกป้องอนาคตของสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด"

นกพัฟฟิน Cr. Frank PARHIZGAR / WWF-Canada

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับนกพัฟฟินแอตแลนติก

นกพัฟฟินแอตแลนติก (The Atlantic puffin) มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์คือ Fratercula arctica เป็นนกพัฟฟินสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดในตระกูล

น้ำหนักโดยประมาณคือ 500 กรัม และสูง 25-30 เซนติเมตร

มีสีสันบนลำตัวเหมือนนกเพนกวิน ในบริเวณหัว หลัง และปีก เป็นสีดำขาว ยกเว้น จงอยปากที่เป็นสีส้ม สีฟ้าและสีเหลือง แต่เป็นแค่เฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงแห่งการผสมพันธุ์ ส่วนในฤดูหนาวจงอยปากจะเปลี่ยนเป็นสีเทา

นกพัฟฟินใช้เวลาส่วนใหญ่ในทะเล แต่ในช่วงทำรัง จะสามารถพบพวกมันได้ตามชายแดนและริมชายหาดบ้าง

นกพัฟฟินเป็นนักว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยม ปีกของพวกมันว่ายทวนน้ำและบังคับทิศทางได้ด้วยเท้าที่มีพังผืด แต่มันไม่ชำนาญการบินเหมือนเพนกวินเลย พวกมันต้องใช้ความพยายามในการกระพือปีก 300-400 ครั้งต่อนาทีเพื่อให้ลอยอยู่ในอากาศได้

ความสามารถพิเศษคือ ดำน้ำลึกได้ถึง 60 เมตร! จับปลาได้เฉลี่ย 10 ตัวต่อเที่ยว บางตัวที่เก่งมากจะสามารถจับได้มากถึง 60 ตัวในการดำน้ำครั้งเดียว

ที่มาข้อมูล

Puffin nesting sites in western Europe could be lost by end of century

MEET OUR SPECIES OF THE MONTH: THE ATLANTIC PUFFIN!

related