svasdssvasds

ส่องมาตรการต่างประเทศ สู้วิกฤตฝุ่น PM2.5 อย่างไรกันบ้างถ้าเทียบกับไทย

ส่องมาตรการต่างประเทศ สู้วิกฤตฝุ่น PM2.5 อย่างไรกันบ้างถ้าเทียบกับไทย

ชวนดูโมเดล การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ของต่างประเทศว่าเขามีวิธีการหรือมาตรการอย่างไรในการจัดการวิกฤตฝุ่นควันแบบนี้ และถ้าเทียบกับไทยจะเป็นยังไง? ไปดูกัน

ในขณะที่ทุกปี คนไทยต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตฝุ่นควัน PM2.5 ที่ดูเหมือนจะหนักหนาสาหัสขึ้นเรื่อย ๆ มาตรการป้องกันฝุ่นที่ออกมาก็ยังไม่เข้าที่มากนัก หรือใช้ได้ผลสักทีเดียว ขณะเดียวกันรัฐก็ขอความร่วมมือประชาชนดูแลสุขภาพของตนเองบ่อยครั้งและการเผชิญหน้ากับปัญหานี้ทำให้คนไทยเสียทรัพย์สินเงินทองในการดูแลตนเองมากขึ้นด้วย

ปัญหาฝุ่นควัน PM2.5 ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่ประเทศไทยเท่านั้น มันยังเป็นปัญหาในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกด้วย บางประเทศก็สามารถจัดการหรือแก้ปัญหาได้ บางประเทศก็ไม่ประสบความสำเร็จสักที ดังนั้น Springnews ในคอลัมน์ Keep The World บทความนี้ จึงอยากพาไปสำรวจนโยบายของต่างประเทศกันว่า ต่างประเทศเขามีมาตรการอย่างไรในการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันบ้าง?

มาตรการสู้ฝุ่นประเทศจีน จีน

จีนเป็นประเทศแผ่นดินใหญ่ที่เผชิญหน้ากับปัญหานี้มานาน บ้างก็สามารถแก้ไขได้ บ้างก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเมืองหรือมณฑลในประเทศนี้นั้นกว้างใหญ่และหลากหลาย แต่เขาก็มีมาตรการในการกำกับดูแลประชาชนด้วยโดย เพื่อลดมลพิษทางอากาศจีนจึวเข้มงวดในเรื่องของการปล่อยมลพิษจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิต เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหิน เหล็กกล้า การผลิตกระจกและซีเมนต์ รวมถึงสั่งยุบโรงงานการผลิตขนาดเล็กที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งตั้งแต่ปี 2559-2560 จีนสั่งยุบไปแล้ว 62,000 แห่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หากวันไหนค่าฝุ่นมีปริมาณมากจนเสี่ยงต่อสุขภาพ บางมณฑลจะสั่งประกาศหยุดทำงาน หรือปิดโรงเรียนชั่วคราวและสั่งให้งดการเผาทุกกรณี แม้กระทั่งการทำปิ้งย่างที่ก่อให้เกิดควันไฟก็ถูกห้าม และพนักงานท้องถิ่นต้องออกบินโดรนพ่นละอองน้ำเพื่อลดปริมาณฝุ่นให้ได้มากที่สุด

นอกจากนี้รัฐยังส่งเสริมให้ทุกครัวเรือน เปลี่ยนจากการเผาทำครัวที่ใช้ถ่านหินมาใช้ไฟฟ้าจากจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งตอนนี้มี 6 ล้านหลังคาเรือนที่เปลี่ยนได้แล้ว และสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมใช้พลังงานสะอาดให้มากกว่าพลังงานจากเชื้อเพลิงที่ปล่อยมลพิษ รวมไปถึงการเข้มงวดด้านยานยนต์ที่เก่าเกินไปจะไม่อนุญาตให้วิ่งบนท้องถนนหากจับได้

มาตรการสู้ฝุ่นของสหภาพยุโรป สหภาพยุโรป

ภาคการควบคุมยานยนต์และขนส่ง มีทั้งการบังคับใช้มาตรฐานคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง การเก็บภาษีสิ่งแวดล้อม และการจำกัดพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2014 สหภาพยุโรปประกาศใช้มาตรฐานการระบายไอเสียของรถยนต์ (Euro Standard) ได้แก่ ไฮโดรคาร์บอน (HC) ไนโตรเจนออกไซด์ (NO) ฝุ่นละออง (Particulate Matter: PM) และจำนวนอนุภาคของฝุ่นละออง (Particulate Number: PN) ควบคุมสารองค์ประกอบหลักของน้ำมัน 6 ชนิด ได้แก่ กำมะถัน อะโรมาติก โอเลฟิน เบนซีน (Benzene) โพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนและกำมะถัน

ขณะที่แอฟริกาใต้เก็บภาษีสิ่งแวดล้อม หากรถยนต์ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่ 120 กรัมต่อกิโลเมตรขึ้นไป โดยสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดยอัตราของภาษีสิ่งแวดล้อมจะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยคือ จำนวนผู้โดยสารที่รถยนต์สามารถรองรับได้ และส่วนต่างของปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่รถยนต์ปล่อยเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด

มาตรการกำหนดเขตควบคุมการปล่อยมลพิษในตัวเมืองหรือเขตมลภาวะต่ำ (Low Emisssion Zone: LEZ) เป็นมาตรการที่ใช้ในหลายเมืองของยุโรป เขตพื้นที่ในเมืองที่จำกัดการเข้ามาของยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษสูง หากผู้ใช้รถต้องการนำรถผ่านเข้าไปในเขต LEZ จะต้องเสียค่าธรรมเนียมที่แปรผันตามมลพิษที่ปล่อยออกมา ระหว่างปี 2019-2022 มีพื้นที่ซึ่งกำหนดเขตเพิ่มขึ้น 40 % จาก 228 พื้นที่เป็น 320 พื้นที่

และปี 2023 ชาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เตรียมจะออกมาตรการขยายให้เขต ULEZ ครอบคลุมพื้นที่กรุงลอนดอนทั้งหมดแต่ยังมีเสียงคัดค้านจากชาวลอนดอน บางประเทศเช่น ฝรั่งเศส และสเปน มีกฎหมายที่บังคับให้เมืองที่มีประชากรมากกว่า 150,000 คน (ประมาณ 42 เมือง) ต้องมีมาตรการกำหนดเขตควบคุมฯ

มาตรการสู้ฝุ่นเกาหลีใต้ เกาหลีใต้

เกาหลีเคยโดนฝุ่น PM2.5 หนักจนส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างร้ายแรง วิธีการแก้ปัญหาของเกาหลีคือ ประการแรก ในด้านของการจราจร รถยนต์ในเกาหลีเป็นส่วนหนึ่งของการปล่อยมลพิษ จึงได้ออกมาตรการให้รถที่มีทะเบียนเลขคู่สลับวิ่งกับทะเบียนคั้ คนละวัน และเจ้าหน้าที่รัฐต้องทำเป็นตัวอย่างสม่ำเสมอ

ห้ามรถยนต์ที่ผลิตก่อนปี 2549 และใช้เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าวิ่งเข้าเมืองเด็ดขาด รถของเจ้าหน้าที่รัฐหากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องวิ่งใช้งานให้สิ้นเปลือง ในด้านของประชาชนก็รณรงค์ให้ใส่หน้ากากป้องกัน งดทำกิจกรรมในที่แจ้ง และรัฐจะมีการแจ้งเตือนสถาณการณ์ฝุ่นผ่านโทรศัพท์มือถือล่วงหน้า 7 วัน

มาตรการสู้ฝุ่นสิงคโปร์ สิงคโปร์

ส่วนสิงคโปร์ ใช้การเก็บค่าธรรมเนียมการจราจรคับคั่ง (Congestion Charge: CC) โดยเก็บค่าธรรมเนียมภายใต้ระบบ Electronic Road Pricing (ERP) ซึ่งเป็นซุ้ม (Gantry System) กระจายอยู่ตามถนนรอบเมือง เมื่อผู้ใช้รถขับผ่าน ระบบ ERP จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมโดยอัตโนมัติด้วยการรับส่งข้อมูลผ่านเซนเซอร์ตัวรับสัญญาณที่รัฐบาลบังคับให้ผู้ใช้รถติดตั้ง

ในประเทศไทยนั้นก็มีแผนในการนําน้ำมันเชื้อเพลิงมีกํามะถันไม่เกิน 10 มิลลิลิตรต่อลูกบาศก์เมตร (ppm) (มีกำมะถันน้อยกว่า 5 เท่า) มาใช้ หรือการปรับปรุงน้ำมันให้มีมาตรฐานเทียบเท่ามาตรฐานยูโร 5 ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2024 โดยปัจจุบัน ในช่วงที่ยังไม่มีการใช้บังคับ ภาครัฐใช้วิธีขอความร่วมมือกับผู้จำหน่ายน้ำมันให้นำน้ำมันกำมะถันต่ำเทียบเท่ามาตรฐานยูโร 5 มาจำหน่ายก่อน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า

และอีกส่วนหนึ่งก็คือการออกประกาศกำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 13 เมษายน 2022 ที่ผ่านมา และมาตรการการตรวจควันดำ ส่วนประเด็นเขตพื้นที่ในเมืองที่จำกัดการเข้ามาของยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษสูง กรุงเทพมหานครเคยมีทีท่าว่าจะใช้มาตรการนี้กับรถบรรทุกในปี 2020 ในช่วงเวลาที่ค่าฝุ่น PM2.5 เข้าขั้นวิกฤตแต่สุดท้ายก็มีการเลื่อนการใช้มาตรการออกไป

มาตรการสู้ฝุ่นเดนมาร์กและญี่ปุ่น เดนมาร์ก

เดนมาร์กเป็นประเทศที่แทบจะไม่ค่อยเจอปัญหานี้เลย เนื่องจากพื้นที่ทางภูมิศาสตร์และสภาพอากาศที่ลมโกรกพร้อมความหนาวเย็นตลอดเวลา แต่ทุนเดิมก็มีมาตรการรองรับ ซึ่งสามารถทำกันได้ทุกบ้านแล้ว คือสนับสนุนให้มีรถยนต์วิ่งบนท้องถนนให้น้อยที่สุด ประชาชนเปลี่ยนมาเดินหรือขี่จักรยานได้ เพราะมีระบบขนส่งสาธารณะรองรับที่สะดวก และรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปีไม่อนุญาตให้วิ่งบนถนน

ญี่ปุ่น

ในภาคอุตสาหกรรม ญี่ปุ่นพัฒนาระบบการติดตามและเฝ้าระวัง ปรับปรุงโมเดลพยากรณ์อากาศ ปรับปรุงฐานข้อมูลและรายชื่อแหล่งกำเนิดมลพิษ มาตรการระดับพื้นที่เพิ่มการติดตาม กำกับ และควบคุม การปล่อยมลพิษจากแหล่งกำเนิดในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการปล่อยเขม่าไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) กฎหมายว่าด้วยระบบการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายมลพิษ และการส่งเสริมการจัดการสารเคมี (Pollutant Release and Transfer Register หรือ PRTR) ในปี 1998 ประเด็นสำคัญของกฎหมายอยู่ที่เมื่อภาคเอกชนปลดปล่อยหรือมีการเคลื่อนย้ายสารอันตรายที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่กฎหมายควบคุมจะต้องรายงานปริมาณและชื่อสารเคมีนั้นๆ ให้หน่วยงานของกระทรวงเศรษฐกิจฯ ร่วมกับกระทรวงสิ่งแวดล้อม รับทราบและรวบรวมเป็นฐานข้อมูลของประเทศ ข้อมูลจากรายงานเหล่านี้ต้องเผยแพร่สู่สาธารณะบนเว็บไซต์ของทั้งสองกระทรวง และประชาชนสามารถขอให้ผู้ประกอบธุรกิจเปิดเผยข้อมูลที่ต้องการได้ ญี่ปุ่นยังมีกฎหมายว่าด้วยการชดเชยความเสียหายทางสุขภาพจากมลพิษด้วย

มาตรการสู้ฝุ่นประเทศไทย ไทย

ตามแนวทางการป้องกันฝุ่นเบื้องต้นของรัฐบาล คือขอความร่วมมือประชาชนดูแลสุขภาพของตนเอง ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นเมื่อออกไปข้างนอกหรือกลางแจ้ง หมั่นตรวจเช็กค่าฝุ่น และเมื่อฝุ่นมีปริมาณมากจะส่งรถดับเพลิงออกมาฉีดพ่นละอองน้ำขึ้นสู่อากาศ

และในด้านของการแก้ปัญหาที่ต้นทาง เมื่อถึงฤดูกาลในหน้าหนาวที่มักจะมีเกาตรกรออกมาเผาตอซังข้าวเพื่อเตรียมดินสำหรับการปลูกผืชผลทางการเกษตรต่อไป รัฐจะสั่งห้ามเผา หากเผาก็จะจับและตักเตือน หรือจับและปรับตามแต่ละการจัดการของแต่ละพื้นที่

สำหรับรถที่ปล่อยควันดำจะไม่อนุญาตให้วิ่ง จะมีการตรวจรถควันดำเข้าเมือง ทั้งรถบรรทุกและรถขนส่งมวลชน หรือรถบริการสาธารณะที่วิ่งในเมืองก็จะสุ่มตรวจปริมาณควันดำที่ปล่อยออกมา และมีการเข้าไปกำกับดูแลการจัดการของโรงงานที่มีการปล่อยมลพิษและเขตก่อสร้าง ให้ติดตั้งเครื่องตรวจอากาศอัตโนมัติ หากพบมีการสร้างมลพิษเกินค่าที่กำหนดจะสั่งให้หยุดดำเนินการทันที เป็นต้น

ที่มาข้อมูล

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ

กระทรวงความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อมของสิงคโปร์

Rocket Media

related