svasdssvasds

ภัยแล้งทำแม่น้ำในฝรั่งเศสแห้งหายทั้งสาย ผลพวงโลกร้อนทำลายการท่องเที่ยว

ภัยแล้งทำแม่น้ำในฝรั่งเศสแห้งหายทั้งสาย ผลพวงโลกร้อนทำลายการท่องเที่ยว

แม่น้ำ Doubs ทางภาคตะวันออกของฝรั่งเศส ติดกับพรมแดนสวิตเซอร์แลนด์ กำลังแห้งหายไปทั้งสาย จากผลพวงภัยแล้งรุนแรงตลอดทั้งฤดูร้อนนี้ อันเป็นผลสืบเนื่องจากคลื่นความร้อนรุนแรงในยุโรป และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จนการท่องเที่ยวท้องถิ่นได้รับความเสียหาย

บนท้องแม่น้ำของแม่น้ำ Doubs ทางตะวันออกของฝรั่งเศส กลายสภาพเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ด้วยผลพวงของภัยแล้งรุนแรงที่มาพร้อมกับคลื่นความร้อนครั้งประวัติการณ์ ทำให้แม่น้ำที่ครั้งหนึ่งเคยมีน้ำไหลลึกและเชี่ยวเหลือเพียงลำธารสายเล็กๆ ที่ลดขนาดลงจนคนในท้องถิ่นสามารถเดินเท้าข้ามไปอีกฝั่งได้โดยไม่ทำให้เท้าเปียกเลย

แม่น้ำ Doubs ในฝรั่งเศส แห้งจนเหลือเพียงทางน้ำเล็กๆ Cr: Jean-paul Journot

แม่น้ำ Doubs ถือเป็นหนึ่งใน 10 แม่น้ำสายหลักที่ยาวที่สุดของฝรั่งเศส มีความยาวประมาณ 453 กิโลเมตร และบางส่วนกั้นเป็นพรมแดนระว่างฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ แม่น้ำสายนี้ถือว่ามีอัตราการไหลที่แปรผันตามฤดูกาลมาก ฤดูน้ำท่วมอาจมีระดับน้ำสูงตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเกิดจากฝนตกหนักหรือหิมะที่ละลายอย่างรวดเร็วจากเทือกเขาจูรา ส่วนที่ปากแม่น้ำ อัตราการไหลออกอาจแตกต่างกันตั้งแต่ต่ำถึง 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (710 ลูกบาศก์ฟุต/วินาที) จนถึงมากกว่า 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (35,000 ลูกบาศก์ฟุต/วินาที) ในช่วงน้ำท่วม

อย่างไรก็ตาม จากสภาพภัยแล้งรุนแรงที่ยิงยาวต่อเนื่องมาตลอดฤดูร้อนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆ กับคลื่นความร้อนรุนแรงครั้งประวัติการณ์ของยุโรป ทำให้แม่น้ำสายนี้เหือดแห้งอย่างรวดเร็ว

Cedric Hertzog หัวหน้านักอุตุนิยมวิทยาของ Meteo France ประจำภูมิภาค Grand Est ของฝรั่งเศส กล่าวว่า เดือนกันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1947 ตามสถิติข้อมูลสภาพอากาศ นอกจากนี้ ในฤดูร้อนที่ผ่านมา ภูมิภาคนี้ได้รับน้ำฝนเพียง 10 – 15% เท่านั้น

พื้นท้องน้ำที่เหือดแห้งกลายสภาพเป็นทุ่งหญ้ากว้าง คนสามารถเดินข้ามได้โดยเท้าไม่เปียกสักนิด  Cr: Jean-paul Journot

Pierre Billod ช่างซ่อมนาฬิกาวัย 81 ปี ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่กับแม่น้ำสายนี้มาตลอดทั้งชีวิตเล่าว่า แม้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมามักเกิดภัยแล้งขึ้นบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีภัยแล้งครั้งใดหนักหนาและรุนแรง จนทำให้แม่น้ำทั้งสายเหือดแห้งได้ขนาดนี้

เขาเล่าว่า แม่น้ำ Doubs บริเวณเมือง Villers-le-Lac ซึ่งเป็นช่วงที่แม่น้ำขยายกว้างจนเป็นทะเลสาบ แต่บัดนี้ผลพวงจากภัยแล้งทำให้ทะเลสาบที่เป็นที่มาของชื่อเมือง Villers-le-Lac กลายเป็นเพียงภาพความทรงจำเท่านั้น หลังจากน้ำในทะเลสาบเหือดแห้งจนเกือบหมด แปรสภาพเป็นท้องทุ่งหญ้ากว้าง จนใครๆ ก็สามารถเดินข้ามทางน้ำทะเลสาบที่แห้งข้ามไปอีกฝั่งได้ง่ายๆ

อีกด้านหนึ่ง ในเมือง Les Brenets ของสวิตเซอร์แลนด์ แม่น้ำที่เหือดแห้งก็ทำให้ท่าเรือนำเที่ยวประจำเมือง กลายเป็นท่าเรือร้าง

“การเหือดหายไปของแม่น้ำถือเป็นหายนะสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น รวมถึงศูนย์กีฬาทางน้ำที่อยู่ริมทะเลสาบ มันเป็นปรากฎการณ์ที่แปลก มันทำให้ฉันเศร้า มันน่ากังวล นี่เป็นผลพวงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกิดจากผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” Sebastien Arcidiacona ชาวเมือง Les Brenets กล่าว

 

แต่เดิมแม่น้ำ Doubs มีทัศนียภาพสวยงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของภูมิภาค

ผลจากแม่น้ำที่เหือดแห้งทำให้น้ำตก Saut du Doubs ซึ่งเป็นหนึ้งในน้ำตกในแม่น้ำ Doubs ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของภูมิภาค หยุดไหลตั้งแต่ช่วงต้นฤดูร้อน ทำให้การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก

นักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก ถึงร้อยละ 65 ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม และนั่นเกิดขึ้นเป็นเวลาสี่ปีติดต่อกัน ทำให้เรากังวลอย่างมากเกี่ยวกับความยั่งยืนของธุรกิจ” Antoine Michel ผู้ประกอบการธุรกิจท้องเที่ยวในพื้นที่ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ที่มา: AFP

related