svasdssvasds

รายจ่ายล่องหน เมื่อโลกร้อน กำลังทำให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น

รายจ่ายล่องหน เมื่อโลกร้อน กำลังทำให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น

นอกจากโลกร้อน ทำให้เกิดภัยพิบัติรุนแรง จนนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สินและชีวิตคนทื่รัก ในขณะเดียวกัน โลกร้อน กำลังทำให้คนเป็นอยู่ยากมากขึ้นด้วย จากราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้นทวีคูณ และนี่คือเหตุผลว่าทำไม?

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โลกเผชิญหน้ากับสภาพภูมิอากาศสุดโหดมาเยอะมาก เช่น คลื่นความร้อน พายุ แผ่นดินไหว สึนามิ ไฟป่า น้ำท่วม ฯลฯ ทำให้ผู้คนสูญเสียทรัพย์สิน รวมถึงชีวิตอันเป็นที่รักไปมากมาย ไม่เพียงแค่ปัจจัยธรรมชาติ แต่ยังมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น ปัญหาพลังงาน สงคราม นโยบายภาษี นโยบายการส่งออก เป็นต้น และในระยะยาว ภัยเหล่านี้กำลังผลักดันให้คนเป็นอยู่ยากมากขึ้นด้วย

เด็ก ๆ กำลังกระโดดน้ำเล่นคลายร้อน ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ วันที่ 11 สิงหาคม 2025 Cr.Reuters

ราคาอาหารกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก

การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Environment Research Letters วิเคราะห์ตัวอย่าง 16 ตัวอย่างของการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารทั่วโลกที่เกิดขึ้น หลังผ่านพ้นช่วงที่เผชิญหน้ากับสภาพอากาศร้อนจัด ภัยแล้ง และฝนตกหนัก ในช่วงปี 2021-2024

การศึกษาได้สรุปออกมาเป็นภาพแผนที่ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นสีต่าง ๆ เพื่อบ่งชี้ว่า พื้นที่นั้นประสบกับปัญหาแบบไหน และกระทบต่อราคาอาหารอย่างไร โดยอ้างอิงข้อมูลสภาพภูมิอากาศในอดีตจากเดือนเดียวกันหรือช่วงเวลาเดียวกันระหว่างปีค.ศ. 1940-2019

รายจ่ายล่องหน เมื่อโลกร้อน กำลังทำให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น

สีเหลือ พื้นที่ประสบภัยแล้ง

  1. บริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา : ราคาผักเพิ่มขึ้น 80% ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021-2022
  2. เม็กซิโก : ราคาผักและผลไม้เพิ่มขึ้น 20% ในเดือนมกราคม 2023-2024
  3. บราซิล : ราคากาแฟทั่วโลกเพิ่มขึ้น 55% ในเดือนสิงหาคม 2023-2024
  4. อิตาลี/สเปน : ราคาน้ำมันมะกอกเพิ่มขึ้น 50% ในเดือนมกราคม 2023-2024
  5. เอธิโอเปีย : ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 40% ในเดือนมีนาคม 2022-2023
  6. อินโดนีเซีย : ราคาข้าวเพิ่มสูงขึ้น 16% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023-2024

เมล็ดกาแฟบราซิลที่วางขายในมหานครนิวยอร์ก 2025 Cr.Reuters

สีน้ำเงิน พื้นที่ประสบภัยฝนตกหนัก

7.สหราชอาณาจักร : ราคามันฝรั่งเพิ่มขึ้น 22% ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2024

8.ปากีสถาน : อาหารท้องถิ่นราคาสูงขึ้น 50% ในปี 2022-2023 หลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ในเดือนสิงหาคม 2022

9.ออสเตรเลีย : ราคาผักกาดหอม ราคาสูงขึ้น 300% หนึ่งเดือนให้หลัง หลังเจอน้ำท่วมหนักในเดือนมกราคม-เมษายนในปี 2022

กระสอบหัวหอมในเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน 2025 Cr.Reuters

 

สีแดง พื้นที่ประสบภัยอากาศร้อน

10.กานา/ไอวิรีโคสต์ ประเทศชายฝั่งของแอฟริกาตะวันตก : ราคาโกโก้โลกเพิ่มสูงขึ้น 280% ในเดือนเมษายน 2023-2024

11.แอฟริกาใต้ : ราคาข้าวโพดเพิ่มสูงขึ้น 36% ในเดือนเมษายน 2023-2024

12.อินเดีย : ราคาหัวหอมเพิ่มขึ้น 89% และราคามันฝรั่งเพิ่มขึ้น 81% ในเดือนเมษายน-มิถุนายน 2024

13.จีน : ราคาผักเพิ่มขึ้น 30% ในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2024

14.เวียดนาม : กาแฟโรบัสต้า ราคาเพิ่มขึ้น 100% ในเดือนมกราคม- กรกฎาคม 2024

15.เกาหลีใต้ : ราคากะหล่ำปลีเพิ่มขึ้น 70% ในเดือนพฤศจิกายน 2023-2024

16.ญี่ปุ่น : ราคาข้าวเพิ่มขึ้น 48% ในเดือนกันยายน 2023-2024

ร้านผักในปักกิ่ง 2025 Cr.Reuters

แล้วประเทศไทยล่ะ?

รายงานจาก Oxford Economics ปี 2022 เผยว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลต่อราคาอาหารในประเทศสมาชิกอาเซียนเช่นกัน โดยการศึกษาพบว่า เมื่ออุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1% จะทำให้ราคาอาหารของผู้ผลิตสูงขึ้น 1-2% ในประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตอาหารก็เพิ่มขึ้นประมาณ 0.5-0.8% โดยคาดว่าประเทศไทยและเวียดนามจะกระทบมากสุด ส่งผลให้ราคาอาหารพุ่งสูงถึง 6%

อนึ่ง อาเซียนมีสัดส่วนการส่งออกอาหารทั่วโลก 9.1% ในปี 2021 และในปี 2000 ก็เพิ่มขึ้นถึง 6.6%

Cr.Reuters

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาสและราคาอาหารที่เพิ่งสูงขึ้น บอกอะไรเรา?

แม็กซิมิเลียน คอทซ์ นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศและหัวหน้าคณะผู้วิจัย กล่าวผ่าน Climate Impacts Tracker ว่า “การเพิ่มขึ้นของราคาอาหารครั้งนี้ไม่ใช่ “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว” เพราะคาดการณ์ว่า สภาวะการณ์ในอนาคตจะเลวร้ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของราคาอาหารและอัตราเงินเฟ้อ” งานวิจัยพบว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะภูมิภาคที่มีอากาศร้อนจะได้รับผลกระทบมากที่สุด และผลกระทบมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต

ผลกระทบนี้จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง

Dr.Jasper Verschuur ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมศาสตร์และความมั่นคงด้านสภาพภูมิอากาศจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์ ในประเทศเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า “นี่จะเป็นเครื่องเตือนใจที่ชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกำลังสร้างความกดดันอย่างมากต่อการผลิตพืชผลทั่วโลก การศึกษาได้เน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อภาคการเกษตร อาจส่งผลกระทบในหลายภาคส่วน เช่น ด้านสุขภาพ เสถียรภาพทางการเมือง และนโยบายการเงิน”

ไม่เพียงแค่นั่น สิ่งเหล่านี้เองจะนำไปสู่ภาวะขาดแคลนอาหารและความไม่เท่าเทียมกันด้านสุขภาพที่เลวร้ายลงไปอีก รวมไปถึงความเสี่ยงทางการเมืองทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศเปราะบาง

ที่มาข้อมูล

Reccessary

Climate Impacts Tracker Asia

Oxford Economics

related