SHORT CUT
สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับเดือนสิงหาคมที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะรัฐแอริโซนาที่คาดว่ามีผู้เสียชีวิตจากความร้อนมากกว่า 400 ราย
มีรายงานที่คาดว่ามีผู้เสียชีวิตจากความร้อนจัดในเขตมาริโคปา รัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ มากกว่า 400 รายในช่วงฤดูร้อนนี้ ตามตัวเลขอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางคลื่นความร้อนอันโหดร้ายที่แผดเผาติดต่อกันเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว
เดือนสิงหาคมนี้ยังมีแนวโน้มจะเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา โดยมีอุณหภูมิสูงถึงอย่างน้อย 43 องศาเซลเซียส เกือบทุกวัน โดยเฉพาะวันที่ 11 สิงหาคมที่มีอุณหภูมิสูงสุดตลอดกาลรายเดือนที่ 48 องศาเซลเซียส
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาออกคำเตือนเรื่องความร้อนจัดเป็นครั้งที่สี่แล้ว แม้ฝนที่ตกหนักขึ้นและพายุฝนฟ้าคะนองจะช่วยบรรเทาอุณหภูมิลง แต่ก็คาดว่าจะมีอากาศร้อนจัดกลับมาอีกครั้งในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมกังวลว่า ความร้อนกำลังจะกลายเป็นปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศที่ร้ายแรงที่สุด แต่การเสียชีวิตจากความร้อนทุกครั้งนั้นที่จริงแล้วสามารถป้องกันได้ แต่ปัญหาคือการขาดการเข้าถึงที่พักพิง ความเย็น หรือบริการด้านสุขภาพ การติดยาเสพติด และบริการสังคมที่เพียงพอ
แต่ความหวังที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางภายใต้รัฐบาลทรัมป์นั้นแทบจะเป็นศูนย์ ท่ามกลางนโยบายที่สวนทางการรับมือวิกฤตสิ่งแวดล้อม เช่น การรื้อถอนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ยุติการวิจัยและความพยายามบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการเข้ายกเลิกบริการด้านสุขภาพ
ปัจจุบัน การเสียชีวิตจากความร้อนหนึ่งในสี่มักจะฆเกิดขึ้นภายในอาคาร และคาดการณ์ว่าค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นอย่างมากภายใต้การบริหารของทรัมป์ ซึ่งอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขึ้นในฤดูร้อน เนื่องจากผู้คนไม่สามารถแบกรับค่าไฟจากเครื่องปรับอากาศ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อควบคุมไฟป่าขนาดใหญ่อย่างน้อย 5 จุดทั่วรัฐ ซึ่งเผาผลาญพื้นที่ไปแล้วประมาณ 180,000 เอเคอร์ สภาพอากาศร้อน แห้งแล้ง และมีลมแรง ส่งผลให้ไฟป่าในรัฐแอริโซนาลุกลามหนักขึ้น รวมถึงไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยูทาห์ โคโลราโด และพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศแคนาดา