svasdssvasds

ฝนแช่ กับ เรนบอมบ์ ต่างกันอย่างไร ? อะไรคือสาเหตุทำน้ำท่วมหาดใหญ่ 2568

ฝนแช่ กับ เรนบอมบ์ ต่างกันอย่างไร ? อะไรคือสาเหตุทำน้ำท่วมหาดใหญ่ 2568

ทำความเข้าใจความหมาย และความแตกต่างระหว่าง ฝนแช่ กับ เรนบอมบ์ , ทั้ง 2 สิ่งนี้ เป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติ ทีมีความต่างอย่างไรบ้าง ? อะไรคือสาเหตุทำน้ำท่วมหาดใหญ่ 2568

SHORT CUT

  • เรนบอมบ์ (Rain Bomb) คือฝนที่ตกรุนแรงมากในเวลาสั้นและพื้นที่แคบ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
  • ฝนแช่ (Stationary Heavy Rain) คือฝนที่ตกต่อเนื่องยาวนานในพื้นที่เดิมซ้ำๆ เพราะระบบลมไม่เคลื่อนที่ ทำให้ปริมาณน้ำสะสมสูงจนท่วมขังเป็นวงกว้าง
  • แม้ผลลัพธ์คือน้ำท่วมเหมือนกัน แต่เรนบอมบ์เน้นความรุนแรงฉับพลัน ส่วนฝนแช่เน้นการสะสมปริมาณน้ำเป็นเวลานานซึ่งมีกลไกการเกิดที่ต่างกัน

ทำความเข้าใจความหมาย และความแตกต่างระหว่าง ฝนแช่ กับ เรนบอมบ์ , ทั้ง 2 สิ่งนี้ เป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติ ทีมีความต่างอย่างไรบ้าง ? อะไรคือสาเหตุทำน้ำท่วมหาดใหญ่ 2568

ทำความเข้าใจความหมาย และความแตกต่างระหว่าง ฝนแช่ กับ เรนบอมบ์  , ทั้ง 2 สิ่งนี้ เป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติ ทีมีความต่างอย่างไรบ้าง ? 

แม้ผลลัพธ์สุดท้ายคือ "น้ำท่วม" เหมือนกัน แต่กลไกการเกิดและลักษณะการทำลายล้างของฝนสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

1. Rain Bomb (ระเบิดฝน): รุนแรง สั้น และเฉพาะจุด

"Rain Bomb" หรือในทางเทคนิคใกล้เคียงกับคำว่า Downburst ไม่ใช่ศัพท์ทางวิชาการที่เป็นทางการ แต่เป็นคำเปรียบเปรยถึงปรากฏการณ์ที่ลมเย็นจากเมฆพายุพุ่งกระแทกพื้นดินอย่างรุนแรง นำพาฝนจำนวนมหาศาลตกลงมา "เป็นก้อนเดียว" ในเวลาอันสั้น
พฤติกรรม: เหมือนถังน้ำขนาดยักษ์คว่ำลงมาตรงๆ (ฝนปักหัว) กินเวลาเพียง 15-60 นาที
ผลกระทบ: น้ำท่วมฉับพลัน (Flash Flood) ในพื้นที่แคบๆ น้ำมาเร็วและลดลงเร็วเมื่อฝนหยุด

2. Stationary Heavy Rain (ฝนแช่): ยืดเยื้อ กว้างขวาง และสะสม

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับหาดใหญ่ "ฝนแช่" คือสภาวะที่ระบบลมหรือแนวร่องมรสุม "หยุดนิ่ง" (Stationary) ไม่เคลื่อนตัวไปไหน ทำให้เมฆฝนก่อตัวและตกลงมาในพื้นที่เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อเนื่องยาวนาน

พฤติกรรม: ระบบฝนล็อกเป้าที่เดิม ตกต่อเนื่องหลายชั่วโมงหรือหลายวัน ปริมาณฝนสะสมจะสูงขึ้นเรื่อยๆ จนน่าตกใจ
ผลกระทบ: น้ำท่วมขังที่กินวงกว้าง ระดับน้ำค่อยๆ สูงขึ้นจนระบบระบายน้ำล่มสลาย และท่วมขังยาวนาน

ฝนแช่ กับ เรนบอมบ์ ต่างกันอย่างไร ? - ระเบิดฝน vs ฝนแช่ ความเหมือนที่แตกต่าง Credit ภาพ REUTERS

 ทำไม "ฝนแช่" ถึงทำหาดใหญ่จมบาดาล ? 

ในปี 2568 หาดใหญ่เผชิญกับปัจจัยที่ทำให้เกิดฝนแช่:
ระบบลมเป็นอัมพาต: แนวร่องฝนไม่ขยับ ทำให้เมฆสะสมความชื้นมหาศาลจากอ่าวไทยและเทลงมาที่จุดเดิม
ภูมิประเทศแอ่งกระทะ: หาดใหญ่เป็นพื้นที่รับน้ำจากอำเภอโดยรอบ (สะเดา, คอหงส์) เมื่อฝนตกแช่ทั่วทั้งลุ่มน้ำ น้ำป่าจึงหลากลงมารวมกันที่จุดต่ำสุด
การขยายตัวของเมือง: พื้นที่คอนกรีตที่เพิ่มขึ้นปิดกั้นทางน้ำซึมลงดิน เร่งให้น้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจเร็วกว่าในอดีต

หลักฐานทางสถิติ หาดใหญ่เจอฝนสุดโหด

ความน่ากลัวของฝนแช่ในปีนี้ สะท้อนผ่านตัวเลขปริมาณน้ำฝนที่ทุบสถิติในรอบหลายศตวรรษ ข้อมูลจากกรมชลประทานระบุความผิดปกติที่ชัดเจนเมื่อเทียบกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในอดีต:

ปี 2543: ฝนสะสม 497 มม.
ปี 2553: ฝนสะสม 428 มม.
ปี 2568 (ล่าสุด): ฝนสะสมสูงถึง 630 มม. (ในช่วง 19-21 พ.ย.)

โดยเฉพาะวันที่ 21 พ.ย. 2025 เพียงวันเดียว มีฝนตกถึง 335 มม. ซึ่งนักวิชาการประเมินว่านี่คือปริมาณฝนในระดับ "คาบอุบัติซ้ำ 300 ปี" (300-year return period) หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นเหตุการณ์ที่โอกาสเกิดขึ้นยากมากในชั่วชีวิตคน

ปริมาณน้ำมหาศาลนี้ เกินขีดความสามารถของ คลองภูมินาถดำริ (คลองระบายน้ำ ร.1) ที่แม้จะถูกออกแบบมาให้ระบายน้ำได้ถึง 1,200 ลบ.ม./วินาที แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อมวลน้ำสะสมจาก "ฝนแช่" ที่กระหน่ำลงมาไม่หยุดยั้ง

ฝนแช่ กับ เรนบอมบ์ ต่างกันอย่างไร ? - ระเบิดฝน vs ฝนแช่ ความเหมือนที่แตกต่าง Credit ภาพ REUTERS
 

สัญญาณเตือนจากธรรมชาติ ยิ่งน่ากลัว

ปรากฏการณ์ น้ำท่วมหาดใหญ่ 2568 ไม่ใช่แค่เรื่องของ "ระเบิดฝน" ที่เกิดขึ้นชั่ววูบ แต่เป็นผลพวงจาก "ฝนแช่" ที่รุนแรงผิดปกติ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ทำให้อากาศร้อนอุ้มไอน้ำได้มากขึ้น และสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงขึ้น

ความเข้าใจที่ถูกต้องระหว่าง เรนบอมบ์ Rain Bomb และ ฝนแช่  Stationary Heavy Rain จึงไม่ใช่แค่เรื่องของคำศัพท์ แต่เป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนรับมือ ภัยธรรมชาติในอนาคตไม่ได้มาแค่ในรูปแบบ "รวดเร็วรุนแรง" เท่านั้น แต่ยังมาในรูปแบบ "กัดเซาะยาวนาน" ที่เราต้องเตรียมพร้อมรับมือให้ดียิ่งกว่าเดิม

ที่มา :  weather.gov  cbsnews  posttoday  theguardian

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related