svasdssvasds

สนพ.ชี้ค่าไฟลดลง ก.ค. -ธ.ค. 66 หลังกำลังผลิตก๊าซฯอ่าวไทย เพิ่มขึ้นเร็วๆนี้

สนพ.ชี้ค่าไฟลดลง ก.ค. -ธ.ค. 66 หลังกำลังผลิตก๊าซฯอ่าวไทย เพิ่มขึ้นเร็วๆนี้

จับเข่าคุย ! ผอ.สนพ. ค่าไฟไทยทำไมถึงแพง ! ชี้ใกล้จะผ่านจุดพีคแล้ว เชื่อก.ค. -ธ.ค. 66 ค่าไฟจะลดลง จากปัจจัยปริมาณผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว ที่อ่าวไทย ดือนก.ค. จะเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน จากปัจจุบันที่ผลิตได้เพียง 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และเพิ่มต่อเนื่องถึงปี67

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า  เรื่องค่าไฟแพงในช่วงนี้สาเหตุหลักมากจาก ต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าอย่างก๊าซธรรมชาติ ที่เป็นเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในการผลิตมากถึง 50 – 60 % พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง  นอกจากนี้ยังมีต้นทุนเรื่องของการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ระบบส่งไฟ รวมถึงกลไกการขายปลีก  การจำหน่ายไฟฟ้าอีกด้วย รวมถึงสภาพอากาศที่ร้อนจัดในขณะนี้ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟมากขึ้นก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟแพงในช่วงนี้

สนพ.ชี้ค่าไฟลดลง ก.ค. -ธ.ค. 66 หลังกำลังผลิตก๊าซฯอ่าวไทย เพิ่มขึ้นเร็วๆนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้หากโฟกัสเฉพาะเรื่องต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น เป็นผลกระทบมาจากการเปลี่ยนผ่านสัมปทานก๊าซธรรมชาติที่อ่าวไทย ทำให้กำลังการผลิตลดลงเหลือ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากเดิมที่กำลังการผลิตอยู่ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน นอกจากนี้ที่ผ่านมาไทยยังนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากต่างประเทศมากถึง 900 ล้านลูกบาศก์ฟุต จากปกติที่นำเข้าเพียง 300 ล้านลูกบาศก์ฟุต อีกทั้งช่วงก่อนหน้านี้ยังเผชิญกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าทำให้การซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวของไทยเสียเปรียบ จึงทำค่าไฟปี2565 เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 19 %  หากเทียบกับปี2564 ถึงกระนั้นผลกระทบดังกล่าวได้ทำให้ค่าไฟปี2566 มีการปรับสูงขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าค่าไฟแพง ค่าไฟขึ้น จะผ่านจุดพีคไปได้ในช่วงเดือนเม.ย  - พ.ค. 2566  และคาดว่าเดือนก.ค. นี้จะลดลงต่อเนื่อง จากปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวที่อ่าวไทยในช่วงเดือนก.ค. จะเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากปัจจุบันที่ผลิตได้เพียง 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และจะเพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค. 66 สูงถึง 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และเพิ่มสูงต่อเนื่องไปจนถึงเดือน เม.ย. 67 จะมีกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวจะอยู่ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลดลง และจะทำให้การพึ่งพิงเชื้อเพลิงอื่นๆ ที่ต้นทุนสูงกว่าก๊าซฯลดลง โดยมั่นใจได้ว่าค่าไฟช่วงเดือน ก.ค. -ธ.ค. 66 จะลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวอากาศจะร้อนอบอ้าวลดลงทำให้มีการใช้ไฟฟ้าลดลง และเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ทำงานได้ตามปกติไม่กินไฟมากนัก

ส่วนสถานการณ์การผลิตไฟฟ้าของไทยในอนาคต คาดว่าจะมีการนำเชื้อเพลิงจากดีเซล และน้ำมันเตา  ที่ราคาไม่สูงมากมาใช้มากขึ้น  และไทยจะเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น แต่ก็ยังมีความกังวลเรื่องว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ไม่สม่ำเสมอหรือไม่ อย่างไรก็ดีนอกจากในอนาคตค่าไฟมีโอกาสจะปรับลดลงตามราคาต้นทุนพลังงานที่ลดลง แต่ สนพ. ก็ยังจะรณรงค์ให้ประชาชนประหยัดพลังงาน เรียนรู้สถานการณ์ด้านพลังงาน ไปด้วยกัน ส่วนรัฐจะช่วยเหลือได้ตามความเหมาะสม

สำหรับมาตรการช่วยเหลือจากรัฐ เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เผยว่าที่ประชุมคณะอนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที ) ว มีมติเห็นชอบปรับลดค่าไฟฟ้า 7 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับงวดพ.ค.-ส.ค.66  โดยปรับลดลงมาอยู่ที่4.70 บาท/หน่วย จากเดิม 4.77 บาท/หน่วย และนอกจากนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เคาะ งบประมาณวงเงิน 11,112 ล้านบาท เพื่อเสนอต้อ กกต. ให้ช่วยลดค่าไฟฟ้าประชาชน ให้ส่วนลดทันที150 บาท ในรอบบิลเดือน พ.ค. 66 พร้อมยังช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางอีก 4 เดือน รายละเอียดดังนี้

1.การช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของกลุ่มเปราะบาง

ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยให้ส่วนลดแบบขั้นบันได ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ สำหรับงวดพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 (4 เดือน) กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราส่วนลดเดียวกันกับช่วงเดือน มกราคม-เมษายน 2566 ตามรายละเอียดดังนี้

– ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 1-150 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้า ตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 1.39 สตางค์ต่อหน่วย

– ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 151-300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 67.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สตางค์ต่อหน่วย

2.มาตรการช่วยเหลือประชาชนระยะเร่งด่วน 

ทั้งนี้จะให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้ฟ้าบ้านอยู่อาศัย ของการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ จำนวน 150 บาทต่อราย โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ในรอบบิลเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงเดือนที่มีสถิติความต้องการไฟฟ้าสูงสุด

และจะให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน จำนวน 23.40 ล้านราย โดยใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 3,510 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

 

 

related