svasdssvasds

เปิด "สัมปทานปิโตรเลียม" รอบ 25 สำคัญอย่างไร ? กับคนไทย

เปิด "สัมปทานปิโตรเลียม" รอบ 25 สำคัญอย่างไร ? กับคนไทย

พาไปดูความสำคัญของการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 25 ที่กระทรวงพลังงานเตรียมชงรัฐบาลใหม่ ว่ามีความสำคัญอย่างไร? กับคนไทย ที่จะช่วยเสริมแกร่งความมั่นคงด้านพลังงาน

แน่นอนว่าเรื่องพลังงานเป็นเรื่องที่สำคัญกับประชาชน และภาคธุรกิจอย่างมาก หากว่าช่วงเวลาใดที่ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นก็จะส่งผลทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ดังนั้นกระทรวงพลังงาน ที่เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลเรื่องพลังงาน จึงต้องเร่งเดินหน้าเสริมแกร่งความมั่นคงด้านพลังงาน รองรับในอนาคตเพื่อไม่ให้ไทยขาดแคลนพลังงาน

การจัดหาแหล่งปิโตรเลียม คืออีกหนึ่งพันธกิจที่กระทรวงพลังงานจะต้องดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ ทั้งนี้คาดการณ์ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติระยะยาว (2561-2580) จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 0.7% และคาดว่าปี 2580 จะอยู่ที่ระดับ 5,348 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยขณะได้มีการเตรียมเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจบนบกครั้งที่ 25

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำหรับเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 25 แน่นอนว่าสำคัญกับคนไทยมากเพราะจะทำให้ไทยมีการผลิตพลังงานได้เพิ่มมากขึ้นรองรับการขยายตัวของประเทศได้ในอนาคตอันใกล้ รวมถึงจะเป็นตัวกำหนดว่าประชาชนจะได้ใช้ราคาพลังงานที่ราคาไม่สูงมากนัก ถ้ามีแหล่งผลิตที่มากขึ้น

วันนี้จะพามาส่องดูความคืบหน้าเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 25 ว่าไปมีเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง โดยนายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจบนบก ครั้งที่ 25 จะครอบคลุมพื้นที่ 9 แปลง คือ บริเวณพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 แปลง และบริเวณพื้นที่ภาคกลางจำนวน 2 แปลง ซึ่งได้ประกาศราชกิจจานุเบกษาไปแล้วเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2566 ที่ผ่านมา

 

ในขณะที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้ดำเนินการศึกษารายละเอียดในเชิงลึกของพื้นที่ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) อย่างต่อเนื่องถึงแนวทางในการเปิดสำรวจ โดยพื้นที่ปิโตรเลียมดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่อนุรักษ์ป่าไม้ และพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จึงได้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน

อย่างไรก็ตามมีการมองว่าพื้นที่ที่จะเปิดประมูลครั้งนี้อาจเลือกพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาก่อน เพื่อให้ไทยมีทรัพยากรมาบริหารจัดการ ช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และลดผลกระทบจากการนำเข้าพลังงานที่มีราคาสูง ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ จะต้องนรอนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในรัฐบาลใหม่ ที่อยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลเป็นผู้พิจารณาลงนามในร่างประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง การให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 9 แปลงดังกล่าว เพื่อเข้าสู่กระบวนการประกาศเชิญชวนผู้ที่มีความสนใจในการลงทุน

ทั้งนี้การเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมพื้นที่ดังกล่าวจะสร้างความต่อเนื่องในการจัดหาปิโตรเลียม ที่ปัจจุบันจะเริ่มมีปริมาณน้อยลง เพื่อให้เพิ่มขึ้นและเพิ่มรายได้ให้ภาครัฐ ทดแทนการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศได้ส่วนหนึ่ง เพราะราคาพลังงานนำเข้าจะสูงกว่ามาก ช่วยให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประเทศ และยังทำให้เกิดการจัดสรรรายได้แก่ท้องถิ่นด้วย

นอกจากนี้ยังมีความคืบหน้ากรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ว่า ขณะนี้อยู่ขั้นตอนการเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเพื่อพิจารณาลงนามร่างประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่องการให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงบนบกรอบที่ 25 ซึ่งจะต้องเสนอผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่พิจารณ โดยพื้นที่สำรวจแบ่งได้ดังนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 แปลง รวมพื้นที่ 25,520 ตารางกิโลเมตร 2.ภาคกลาง 2 แปลง รวมพื้นที่ 7,924 ตารางกิโลเมตร

นายสราวุธ  กล่าวว่า กำหนดเป้าหมายในการเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2566 และที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ตั้งแต่เดือน เม.ย.2567 เพื่อให้การผลิตปิโตรเลียมจากแปลงเอราวัณกลับมามีอัตราการผลิตสูงสุดในอ่าวไทยอีกครั้ง จะส่งผลให้ช่วยลดต้นทุนและปริมาณการนำเข้าก๊าซ LNG จากต่างประเทศที่มีราคาแพงมาผลิตไฟฟ้า ช่วยลดความผันผวนของภาระค่าไฟฟ้า และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน เศรษฐกิจและสังคม

related