svasdssvasds

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตั้งเป้าเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้า EV บนท้องถนน 50% ภายในปี 2050

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตั้งเป้าเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้า EV บนท้องถนน 50% ภายในปี 2050

เมื่อเศรษฐีน้ำมัน อย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งเป้าหมายใหม่เปิดตัวนโยบายรถยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ซึ่งมีความต้องการที่จะเพิ่มสัดส่วนของรถยนต์ EV ให้ได้ 50% ภายในปี 2050

จากเทรนด์โลกที่ต้องการลดการใช้พลังงานฟอสซิล หันมาใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์เปลี่ยนจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตั้งเป้าเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้า EV บนท้องถนน 50% ภายในปี 2050

เป็นที่รู้กันดีว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งด้านน้ำมัน ปิโตเลียมและก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากเทรนด์ด้านพลังงานรักษ์โลก ลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลให้ได้มากที่สุด ทำให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หันมาดำเนินนโยบายเรื่อง EV โดยได้เปิดตัวนโยบายรถยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติซึ่งมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งของรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 50% ของยานพาหนะทั้งหมดบนถนนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ภายในปี 2050

เรามาดูกันดีกว่าเศรษฐีน้ำมัน อย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะมีการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า EV ในประเทศอย่างไรบ้าง?

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตั้งเป้าเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้า EV บนท้องถนน 50% ภายในปี 2050 โครงการ Global EV Market ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ประกาศในเดือนพฤษภาคม 2023 กระทรวงพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน (MOEI) ได้ลงนามข้อตกลงกับสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และสาธารณูปโภค โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือการดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติมในด้านอุปกรณ์ชาร์จ โดยติดตั้งทั่วทั้งรัฐบาลกลาง อาคารราชการ ถนน และป้ายรถบรรทุก ขณะที่แบรนด์ยานยนต์ยอดนิยมได้ลงนามในโครงการนี้แล้ว เช่น Audi, BMW, General Motors, Jaguar Land Rover และ Porsche

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตั้งเป้าเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้า EV บนท้องถนน 50% ภายในปี 2050

นอกจากนี้ภายในสิ้นปีนี้ กระทรวงพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน ตั้งเป้าจะติดตั้งสถานีชาร์จ EV 914 แห่งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกำลังดำเนินการสร้างเส้นทาง EV ของ กลุ่ม GCC กลุ่มประเทศ GCC (Gulf Cooperation Council) หรือที่รู้จักในอีกชื่อ Cooperation Council for the Arab States of the Gulf เป็นสหภาพที่ประกอบด้วยสมาชิก 6 ประเทศอาหรับในตะวันออกกลาง ซึ่งได้แก่ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ตั้งอยู่ติดกันในอ่าวเปอร์เซีย โดยจะมีสถานีชาร์จเร็วบริเวณชายแดนติดกับซาอุดีอาระเบียและโอมาน ขณะที่ในดูไบ ผู้ให้บริการสาธารณูปโภค DEWA ได้ติดตั้งสถานีชาร์จ EV สาธารณะแล้ว 620 แห่ง และวางแผนที่จะเพิ่มเป็น 1,000 แห่งภายในปี 2025

ไม่เพียงเท่านั้นนโยบาย EV ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังให้ความสำคัญกับศูนย์ซ่อมแซมและบำรุงรักษา EV เนื่องจากรถยนต์มีความซับซ้อนมากขึ้น รถยนต์ไฟฟ้ายังต้องการทักษะเฉพาะทางที่มากกว่า โครงการ Global EV Market รวมถึงแรงจูงใจในการลงทุนในศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาที่มีความสามารถเนื่องจากแบรนด์ยานยนต์รายใหญ่ทุกรายในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดศูนย์บริการอยู่แล้ว

Alix Capper-Murdoch ผู้มีอิทธิพลด้านยานยนต์และผู้ฝึกสอน กล่าวว่า ในดูไบ มีจุดชาร์จในห้างสรรพสินค้า ที่จอดรถ ที่จอดรถของธุรกิจทุกแห่ง ที่สนามบิน มีสถานีชาร์จ EVที่ Town Square Skate Park ด้วยซ้ำ ขณะที่ ดูไบ ชาร์จาห์ อัจมาน และอาบูดาบีเป็นประเทศที่มีความคิดก้าวหน้ามากกว่าที่อื่นๆ ทั่วโลก

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ภาพ : pixabay

 

เนื้อหาที่น่าสนใจ :