วิกฤต "เนิร์ดเดิล" เม็ดพลาสติกจากเรืออัปปาง กำลังทำลายโลก

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 เรือบรรทุกสินค้า MSC Elsa สัญชาติไลบีเรีย ที่มีอายุเกือบ 30 ปี ได้เกิดเหตุพลิกคว่ำและจมลงที่บริเวณทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอาลาปปุซาในรัฐเกรละ ห่างจากชายฝั่งไปเพียง 25 กิโลเมตร ซึ่งเรือลำดังกล่าวบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์กว่า 600 ตู้

แน่นอนว่าสิ่งที่น่ากังวลที่สุดในเหตุเรือล่มคือการรั่วไหลของน้ำมัน ซึ่งหากควบคุมไม่ได้ก็จะทำให้ระบบนิเวศชายฝั่งเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งระบุว่าเรือลำดังกล่าวมีน้ำมันดีเซล 88.4 เมตริกตัน และน้ำมันเตา 367 เมตริกตัน และโชคดีที่เจ้าหน้าที่ทางทะเล "ดำเนินการอย่างรวดเร็ว" จึงป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลครั้งใหญ่ได้

ทว่าสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดคือ บนเรือลำนั้นยังบรรทุกเม็ดพลาสติด "เนิร์ดเดิล" เป็นปริมาณมหาศาล และทันทีที่เรืออัปปาง เม็ดพลาสติกเหล่านั้นก็ได้รั่วไหลลงทะเลเรียบร้อยแล้ว กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พวกมันถูกซัดขึ้นฝั่ง ในอีกสี่สิบแปดชั่วโมงถัดมา และคาดว่าในระหว่างนั้นมันคงส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศไปมากแล้ว โดยเฉพาะสัตว์ทะเลที่กินเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

นี่คือ "วิกฤตเนิร์ดเดิล" ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ

เนิร์ดเดิล คือเม็ดพลาสติกขนาดเล็กที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกต่างๆ ทำให้มันมักจะมีขนาดเล็กประมาณเมล็ดถั่ว และจากข้อมูลของ Fidra ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลของสกอตแลนด์ พบว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียวที่ "เนิร์ดเดิล" รั่วไหลลงสู่ทะเล แต่มีเม็ดพลาสติกเหล่านี้ประมาณ 22.4 ล้านล้านชิ้น ถูกปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมทุกปี

มีรายงานการรั่วไหลของเม็ดพพลาสติกเนิร์ดเดิลทั่วโลก แต่มีการยืนยันการรั่วไหลจากสหรัฐอเมริกาและประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันตกมากกว่าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แม้ว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเป็นแหล่งนำเข้าพลาสติกประมาณร้อยละ 37 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของโลกและร้อยละ 30 ของปริมาณการส่งออกทั้งหมดก็ตาม

การรั่วไหลของเม็ดพลาสติกเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของสัตว์ป่าและมนุษย์ อนุภาคที่ถูกกินเข้าไปอาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะ เกิดแผลในกระเพาะ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยในเดือนพฤศจิกายน 2024 กองทุนสวัสดิภาพสัตว์ระหว่างประเทศระบุให้ เนิร์ดเดิลเป็น "มลพิษที่เป็นอันตรายที่สุด"