svasdssvasds

อัปเดต! คาร์บอนเครดิต “ภาคป่าไม้ไทย” ซื้อขายไปถึงไหนแล้ว?

อัปเดต! คาร์บอนเครดิต “ภาคป่าไม้ไทย” ซื้อขายไปถึงไหนแล้ว?

พามาอัปเดต! การซื้อขายคาร์บอนเครดิตไทย รับ 11 พ.ค. "วันต้นไม้แห่งชาติ" อบก. เผย ขึ้นทะเบียนแล้ว 112 โครงการ ได้รับรองแล้ว 16 โครงการ ปริมาณคาร์บอนเครดิต 563,056 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

SHORT CUT

  • ป่าของประเทศยังอยู่ในระดับที่ถือว่าคงตัว คือ ร้อยละ 31.46 ของพื้นที่ประเทศ หรือ 101,785,271.58 ไร่
  • จากการสำรวจทำให้ได้เห็นข้อมูลพื้นที่ป่าในรายจังหวัดที่ชัดเจน โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น เช่น เพชรบูรณ์ บุรีรัมย์ ระยอง
  • อัปเดต! การซื้อขายคาร์บอนเครดิตไทย รับ11 พ.ค. วันต้นไม้แห่งชาติ อบก. เผย ขึ้นทะเบียนแล้ว 112 โครงการ ได้รับรองแล้ว 16 โครงการ ปริมาณคาร์บอนเครดิต 563,056 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

พามาอัปเดต! การซื้อขายคาร์บอนเครดิตไทย รับ 11 พ.ค. "วันต้นไม้แห่งชาติ" อบก. เผย ขึ้นทะเบียนแล้ว 112 โครงการ ได้รับรองแล้ว 16 โครงการ ปริมาณคาร์บอนเครดิต 563,056 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

เพราะ..ป่า คือ ชีวิต เราจึงต้องช่วยกันรักษาป่าให้อยู่คู่กับโลกของเรา แต่…ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่พักหลังๆมานี้ป่าในประเทศไทยเริ่มลดลง จากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และไฟป่า รวมถึงปัจจัยลบอื่นๆอีกมากมายที่รุมเร้าป่าไทย โดยข้อมูลล่าสุด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เผยว่า ได้รับทราบข้อมูลผลการจัดทำข้อมูลพื้นที่ป่าไม้ ปี พ.ศ. 2567 ของกรมป่าไม้ ที่ร่วมกับ ศูนย์วิจัยป่าไม้ ของคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการสำรวจในช่วงปีที่ผ่านมาแล้ว

 

ทั้งนี้แม้ว่าแม้ในภาพรวมพื้นที่ป่าของประเทศยังอยู่ในระดับที่ถือว่าคงตัว คือ ร้อยละ 31.46 ของพื้นที่ประเทศ หรือ 101,785,271.58 ไร่ แต่จากการสำรวจทำให้ได้เห็นข้อมูลพื้นที่ป่าในรายจังหวัดที่ชัดเจน โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น เช่น เพชรบูรณ์ บุรีรัมย์ ระยอง ในส่วนนี้ ต้องขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทุกท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินงานจนเห็นผลการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ป่าอย่างเป็นรูปธรรม

จากข้อมูลเบื้องต้นจะเห็นได้ว่าป่าไม้ไทยยังทรงตัว แต่ไทยก็ยังคงต้องพึ่งพาป่า โดยเฉพาะเรื่องของคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ วันนี้จะพามาส่อง และอัปเดตคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ ข้อมูลจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เผย สถิติโครงการ Standard T-VER ภาคป่าไม้ ของไทยที่สำคัญๆ เป็นข้อๆดังนี้
•โครงการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนทั้งหมด 112 โครงการ 
• ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะกักเก็บได้ 902,856 /ปี
•โครงการที่ได้รับรองคาร์บอนเครดิต 16 โครงการ
•ปริมาณคาร์บอนเครดิต 563,056 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ทั้งนี้สามารถจำแนกย่อยออกไปดังนี้
•พื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 1 โครงการ พื้นที่ 400 ไร่ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดจะเก็บกักได้ 380 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ ปี
•พื้นที่ป่าสงวน จำนวน 7 โครงการ พื้นที่ 206,457.71 ไร่ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดจะเก็บกักได้ 290,102 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี
•พื้นที่ป่าชุมชน จำนวน 34 ไร่ (136 ป่าชุมชน)  พื้นที่ 153,949.69 ไร่ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดจะเก็บกักได้ 88,694 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี
•พื้นที่ป่าชายเลน จำนวน 16 โครงการ พื้นที่ 24,708.59 ไร่ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดจะเก็บกักได้ 191,706 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี
•พื้นที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จำนวน 3 โครงการ พื้นที่ป่า 226,563.37 ไร่ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดจะเก็บกักได้ 304,978 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี
•พื้นที่เอกชนจำนวน จำนวน 33 โครงการ พื้นที่ 13,256.03 ไร่ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดจะเก็บกักได้  22,706 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี
•อื่นๆ จำนวน 18 โครงการ พื้นที่ 8326.30 ไร่ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดจะเก็บกักได้ 4,287 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี

รวมทั้งสิ้นจำนวน 112 โครงการ พื้นที่ 633,661.69 ไร่ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดจะเก็บกักได้ 902,856  คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี

ต้องจับตาดูการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในไทยต่อไป แต่…เราก็ต้องช่วยกันรักษาป่าไม้กันต่อ เพราะ…ป่า คือ ชีวิตของเรา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related