ปลามีตุ่มยังพบเรื่อย ๆ แม่น้ำกกย่ำแย่ วอนรัฐเร่งแก้ปัญหา

วันที่ 10 มิถุนายน 2568 สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต รายงานว่า สถานการณ์ปลาติดเชื้อลุ่มน้ำกกยังรุนแรง ได้พบปลาแข้ติดเชื้อตัวใหม่ที่ชาวประมงแม่น้ำกกจับได้ จึงได้โทรประสานให้มารับตัวอย่างไปศึกษา

นอกจากนี้ จากการติดตามสถานการณ์ปลาในลุ่มน้ำโขงเหนือของทางสมาคมฯ ยังพบปลาติดเชื้อกระจายเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยพบจำนวนปลาที่มีร่างกายผิดปกติ มีตุ่มตามตัวรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง

ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของชุมชนในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะชาวประมงริมน้ำ หลังพบสารปนเปื้อนในน้ำเกินค่ามาตรฐาน แม้ว่าผลการตรวจสอบสารโลหะหนักในตัวปลายังไม่เกินเกณฑ์ แต่การพบปลาติดเชื้อนี้ ก็สร้างความกังวลและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถจำหน่ายปลาได้ตามปกติ รายได้หดหายอย่างต่อเนื่อง

นายบุญสุข สุวรรณดี ชาวประมงบ้านสบคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เล่าว่า “ปัญหาแม่น้ำมีสารพิษ อยากให้รัฐบาลหรือหน่วยงานเข้ามาช่วย ชาวประมงเราเดือดร้อนกันทุกคนเลย แม่ค้าที่รับซื้อปลา เขาไม่ซื้อเลย ตอนนี้เขาปิดโทรศัพท์หนีไม่ยอมซื้อปลา”

“ชาวบ้านสบคำ ทุกหลังคาหากินกับแม่น้ำมานาน อาศัยพึ่งพาแม่น้ำ ถ้าไม่มีแม่น้ำก็ไม่มีอาหารการกิน อยากให้หน่วยงานมาช่วยเหลือ ตอนนี้ชาวประมงต้องไปจับปลาในหนอง ในหลง หลักให้ผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาดูแลพัฒนาแหล่งน้ำ หรือนำปลามาปล่อยให้ชาวบ้านได้มีปลากิน ได้บริโภค ได้มีแหล่งอาหารสำรองแทนปลาในแม่น้ำสายหลัก”

อย่างไรก็ตาม สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เผยว่า ตัวอย่างปลาที่ติดเชื้อผิดปกตินี้ เป็นหลักฐานชั้นดีเพื่อเรียกร้องเรียกร้องการเจรจาปิดเหมืองที่คาดว่าเป็นต้นตอของการปล่อยสารพิษลงสู่แม่น้ำ และพร้อมสนับสนุนข้อมูล ผลักดันรัฐบาลเปิดการเจรจาเพื่อ “ปิดเหมือง” ถาวร

นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เผยว่า “ปัญหานี้ ไม่ใช่แค่เรื่องปลาหรือชาวประมง แต่เป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงทางอาหารของประชาชนในระยะยาว เราต้องการเห็นความรับผิดชอบจากต้นตอของปัญหา ไม่ใช่เพียงแค่คำอธิบายว่า ยังไม่เกินมาตรฐาน”

ขณะนี้ยังไม่มีท่าทีจากหน่วยงานรัฐต่อข้อเรียกร้องดังกล่าวอย่างชัดเจน แต่กระแสกดดันจากภาคประชาชนและองค์กรสิ่งแวดล้อมกำลังเพิ่มสูงขึ้น โดยเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตรวจสอบอย่างโปร่งใส และพิจารณาทางเลือกในการปิดเหมืองที่สร้างผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง

ที่มาข้อมูล

แม่น้ำเพื่อชีวิต