เมื่อชาวฟิลิปปินส์หลายหมื่นคนออกมารวมตัวกันเพื่อ ประท้วง รัฐบาลหลังพบการทุจริตในโครงการป้องกันและบรรเทา น้ำท่วม หลายพันล้านบาท
“จุดประสงค์ของเราไม่ใช่การทำลายเสถียรภาพ แต่เพื่อเสริมสร้างประชาธิปไตย” พระคาร์ดินัล ปาโบล เวอร์จิลิโอ เดวิด ประธานสภาสังฆราชคาทอลิกแห่งฟิลิปปินส์ กล่าวในแถลงการณ์ในการประท้วงที่กรุงมะนิลา
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวฟิลิปปินส์ราว 50,000 คน เดินขบวนประท้วงในกรุงมะนิลา เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อกรณีคอรัปชันของภาครัฐ อันได้แก่ สมาชิกสภานิติบัญญัติ นักธุรกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่ารับสิบบนเป็นเงินจำนวนมหาศาลจากโครงการควบคุมและป้องกันน้ำท่วม
กลุ่มผู้ประท้วงประกอบไปด้วย ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา คนดัง รวมถึงกลุ่มคริสตจักร ไปรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณสวนสาธารณะในกรุงมะนิลา และบริเวณใกล้ ๆ กับอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวในปี 1986 ที่โค่นล้มบิดาผู้เป็นเผด็จการของมาร์กอส
จากการประท้วงที่เป็นไปอย่างสงบ ทวีความรุนแรงขึ้นทันที เมื่อทหารและตำรวจลงพื้นที่ปราบจลาจลโดยใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง เพื่อปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงคนหนุ่มคนสาว ซึ่งมีการรายงานว่ามีการขว้างปาหินและทุบกระจกรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พันตรี เฮเซล อาซิโล โฆษกตำรวจ เปิดเผยรายละเอียดว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 72 คน รวมถึงเยาวชน 20 คน ในเหตุการณ์แยกกัน 2 ครั้ง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 39 นาย และรถพ่วงที่ถูกใช้เป็นเครื่องกีดขวางถูกวางเพลิง
จุดเริ่มต้นจริง ๆ น่าจะมาจาการที่ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาในเดือนกรกฎาคม หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่
แต่ที่จุดกระแสความโกรธให้กับคนฟิลิปปินส์เลยก็คือ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งได้กล่าวหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกือบ 30 คน และเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและทางหลวง (DPWH) ว่ารับเงินสด
กระแสที่ออกไปรุนแรงมาก ล่าสุด ประธานวุฒิสภาฟรานซิส เอสคูเดโร และประธานสภาผู้แทนราษฎรมาร์ติน โรมูอัลเดซ ได้ลาออกจากตำแหน่ง วิศวกรรัฐบาลอย่างน้อย 3 คนถูกปลดออกจากตำแหน่ง และอีก 15 คนกำลังถูกสอบสวน
วินซ์ ดิซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการ กล่าวว่า วิศวกรเหล่านี้ทั้งหมดจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญา และบัญชีธนาคาร บ้าน รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆ จะถูกอายัด
“ฉันรู้สึกเสียใจที่เราต้องดิ้นรนกับความยากจน และต้องสูญเสียบ้าน ชีวิต และอนาคตของเรา ในขณะที่พวกเขาโกยเงินมหาศาลจากภาษีของเราที่จ่ายเป็นค่ารถหรู ทริปต่างประเทศ และธุรกรรมทางธุรกิจขนาดใหญ่” อัลเธีย ทรินิแดด นักเคลื่อนไหวนักศึกษา กล่าวกับสำนักข่าวเอพีในกรุงมะนิลา
อัลเธีย ทรินิแดด บ้านของเธออยู่ที่จังหวัดบูลาคัน จังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงต่อน้ำท่วมอยู่ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา เมื่อสืบสาวไปพบว่าโครงการควบคุมและป้องกันน้ำท่วมส่วนใหญ่นั้นถูกตั้งข้อสันนิษฐานว่าไม่ได้มาตรฐาน หรืออาจจะไม่มีอยู่เลย
มีการประเมิณว่าการทุจริตงบน้ำท่วมดังกล่าวอาจทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหายมากถึง 1.48 พันล้านปอนด์ ขณะที่กรีนพีซ (greenpeace) ประเมิณว่าตัวเลขอาจสูงกว่านั้น โดยคาดการณ์ว่างบที่เกี่ยวกับโครงการที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศมากกว่า 1.3 หมื่นล้านปอนด์เลยทีเดียว
จุดประสงค์ของกลุ่มผู้ประท้วงนั้นไม่ได้มุ่งทำลาย สร้างความรุนแรง แต่เกิดขึ้นเพื่อประณามสมาชิกสภานิติบัญญัติ เจ้าของบริษัทก่อสร้าง รวมถึงระบบของภาครัฐ ที่เปิดช่องว่างให้เกิดการทุจริต
แต่กระแสของคนฟิลิปปินส์เองก็แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง อีกกลุ่มนึงเห็นว่าประธานาธิบดีมาร์กอสต้องรับผิดชอบต่อการทุจริตในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นผู้ลงนามงบประมาณแผ่นดินปี 2025 แต่อีกฝ่ายนึงก็บอกว่าประธานาธิบดีควรออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง
แต่อีกกระแสนึงกลัวว่ารองประธานาธิบดีจะเข้ามายึดเก้าอี้ผู้นำ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเปิดทาง เพราะมองว่ารองประธานาธิบดีก็มีความผิดเรื่องการคอร์รัปชันในคดีของตัวเอง จึงต้องจับตากันต่อไปว่าการประท้วงในครั้งนี้จะนำพาฟิลิปปินส์ไปสู่จุดใด
ที่มา: The Guardian, AP
ข่าวที่เกี่ยวข้อง