svasdssvasds

ตรวจพบสารหนูแม่น้ำสาละวินสูงเกิน 5 เท่า สั่งห้ามสัมผัส-งดบริโภคปลาในน้ำ

ตรวจพบสารหนูแม่น้ำสาละวินสูงเกิน 5 เท่า สั่งห้ามสัมผัส-งดบริโภคปลาในน้ำ

นายอำเภอสบเมย สั่งห้ามสัมผัสน้ำสาละวิน-งดบริโภคปลาแม่น้ำ หลังตรวจพบสารหนูสูงเกิน 5 เท่า แจ้งเตือนชาวบ้านท่าตาฝั่งห้ามลูกหลานลงเล่นน้ำสาละวิน

SHORT CUT

  • ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตรวจพบสารหนูในแม่น้ำสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน สูงเกินค่ามาตรฐานถึง 5 เท่า
  • สันนิษฐานว่าสาเหตุของการปนเปื้อนมาจากการทำเหมืองแร่จำนวนมากบริเวณต้นน้ำในฝั่งเมียนมา
  • ทางการในพื้นที่ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนงดใช้น้ำโดยตรง งดสัมผัส และงดบริโภคปลาและสัตว์น้ำจากแม่น้ำสาละวิน

นายอำเภอสบเมย สั่งห้ามสัมผัสน้ำสาละวิน-งดบริโภคปลาแม่น้ำ หลังตรวจพบสารหนูสูงเกิน 5 เท่า แจ้งเตือนชาวบ้านท่าตาฝั่งห้ามลูกหลานลงเล่นน้ำสาละวิน

จากกรณีที่ ผศ.ดร.ว่าน วิริยา ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยผล LAB จากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ตรวจพบสารหนูในแม่น้ำสาละวินสูงเกินค่ามาตรฐาน 5 เท่า

โดยทีมนักวิจัยได้ลงพื้นที่ไปยังแม่น้ำสาละวิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา โดยใช้เครื่องมือ Inductively Coupled Plasma – Optical Emission Spectrometer (ICP-OES) เป็นเทคนิควิเคราะห์ที่ใช้ในการตรวจวัดและระบุปริมาณธาตุต่างๆ ในตัวอย่าง โดยเฉพาะธาตุโลหะหนักและธาตุอื่นๆ ในความเข้มข้นที่ต่ำมาก เครื่องมือทำงานบนหลักการของการปล่อยแสงจากอะตอมและไอออนของธาตุที่ถูกกระตุ้นด้วยพลังงานจากพลาสมา

ทำการเก็บตัวอย่างน้ำ 3 จุด

  • จุดที่ 1 เก็บน้ำ เหนือบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง พบว่า สารหนูเกินค่ามาตรฐาน 0.05 มก./ล จากค่ามาตรฐาน 0.01มก/ล 
  • จุดที่ 2 เก็บน้ำ ท้ายบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง พบว่าสารหนูสูงเกินค่ามาตรฐาน 0.05 มก./ล
  • จุดที่ 3 เก็บน้ำ เหนือบ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย พบสารหนูสูงเกินค่ามาตรฐาน 0.04 มก./ล

ก่อนที่ทีมวิจัยจะลงพื้นที่พบว่ามีน้ำขุ่นในแม่น้ำสาละวิน สอดคล้องกับข้อมูลของ Stimson Center (สถาบันวิจัยอิสระและไม่แสวงหาผลกำไรของสหรัฐอเมริกา) ที่ระบุว่า ต้นน้ำสาละวินในฝั่งเมียนมา ตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการทำเหมืองแร่เป็นจำนวนมาก 

จึงได้ลงพื้นที่ทำการเก็บตัวอย่างน้ำในแม่น้ำสาละวินที่ไหลผ่านอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และก็พบว่ามีความผิดปกติ ซึ่งเป็นอีกวาระหนึ่งที่มองว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองแร่ เป็นภัยใกล้ตัวประชาชนชาวไทยมากขึ้น และที่สำคัญมีฐานของโรงงานเหมืองแร่ในฝั่งแม่น้ำสาละวินมากกว่าทางฝั่งแม่น้ำกก

 

ที่ศูนย์ประสานงาน องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สวด (บ้านนาดอย) อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้ประชุมคณะกรรมการบริหารงานระดับอำเภอ(กบอ.)โดยนายคำผัน โมกไธสง นายอำเภอสบเมย เป็นประธาน

นายคำผันกล่าวว่า ได้รับการแจ้งข่าวจากอำเภอแม่สะเรียง ซึ่งเป็นพื้นที่แม่น้ำสาละวินไหลผ่านก่อนถึงอำเภอสบเมยว่า ทางศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ได้ตรวจน้ำสาละวินบริเวณบ้านท่าตาฝั่งพบว่ามีสารโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน ดังนั้นในที่ประชุมจึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่ของท้องที่และท้องถิ่นไปทำการประชาสัมพันธ์ให้งดใช้น้ำจากแม่น้ำสาละวินโดยตรงก่อน ส่วนสัตว์น้ำก็ขอให้งดบริโภคไว้ก่อนจนกว่าผลการพิสูจน์จะออกมาว่าส่งผลกระทบกับชาวบ้านมากน้อยแค่ไหน

เราจะเร่งประชาสัมพันธ์ทั้งสื่อโซเชียลและหอกระจ่ายข่าวหมู่บ้านให้ประชาชนงดใช้น้ำโดยตรงจากแม่น้ำสาละวิน และงดรับประทานสัตว์น้ำที่จับได้จากแม่น้ำสาละวิน

ด้านนายสุวัต ษมาจิตโอบอ้อม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นหมู่บ้านริมแม่น้ำสาละวิน เปิดเผยว่า พอจะทราบข่าวแม่น้ำสาละวินปนเปื้อนสารหนูเกินค่ามาตรฐานจากสื่อโซเชียลแล้ว โดยชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็แจ้งให้กันทราบ 

อย่างไรก็ตามอยากทราบข้อมูลให้ชัดเจนจากหน่วยงานราชการให้ชัดเจนกว่านี้ว่าแม่น้ำสาละวินปนเปื้อนสารโลหะหนักจริงเท็จอย่างไร เพื่อชาวบ้านจะได้ป้องกันตัวและรับมือสถานการณ์ได้

ชาวบ้านที่รับรู้ข่าวแล้วต่างก็รู้สึกกังวลเพราะพวกเขามีวิถีชีวิตที่ต้องพึ่งพาแม่น้ำสาละวิน เช่น หาปลาและสัตว์น้ำ ในหน้าแล้งน้ำประปาภูเขาไม่ไหลก็ต้องใช้น้ำจากแม่น้ำสาละวินซักผ้าและอาบน้ำ พวกเขาต้องสัมผัสน้ำโดยตรง 

ที่มา : สำนักข่าวชายขอบ

 

related