
SHORT CUT
สร้างได้ก็ลดได้ เมื่อจีนซึ่งเคยเป็นประเทศผู้ปล่อยมลพิษรายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังจะบรรลุเป้าลดการปล่อยมลพิษสูงสุดก่อนกำหนด แม้จะพลาดเป้าในการลดความเข้มข้นของคาร์บอน
การวิเคราะห์จากโดยศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศสะอาด (Crea) เผยว่า ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของจีนคงที่หรือลดลงมาเป็นเวลา 18 เดือน ซึ่งถือเป็นหลักฐานที่เพิ่มความหวังให้กับทั่วโลกที่ตั้งเป้าจะลดการปล่อยมลพิษเช่นกัน เนื่องจากจีนเคยเป็นหนึ่งในผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ปัจจุบันสามารถบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงสุดได้เร็วกว่ากำหนดมาก
จีนเปลี่ยนตัวเองเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้เพิ่มการติดตั้งแหล่งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งเติบโตขึ้นถึง 46% และ 11% ในไตรมาสที่สามของปีนี้ และมันส่งผลให้การปล่อยมลพิษจากภาคพลังงานของประเทศยังคงเท่าเดิม แม้ว่าความต้องการไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
นับเพียงในช่วงเก้าเดือนแรกของปีนี้ จีนก็ได้เพิ่มกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ได้ 240 กิกะวัตต์ และพลังงานลม 61 กิกะวัตต์ ทำให้จีนมีแนวโน้มที่จะสร้างสถิติพลังงานหมุนเวียนอีกครั้ง หลังเมื่อปีที่แล้ว จีนได้ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ได้ 333 กิกะวัตต์ ซึ่งมากกว่าส่วนอื่นๆ ของโลกรวมกันทั้งหมด
ข้อมูลวิเคราะห์นี้ เกิดขึ้นในขณะที่ผู้นำโลกมารวมตัวกันที่บราซิลเพื่อร่วมการประชุม Cop30 ซึ่งจัดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่วิกฤตสภาพภูมิอากาศกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแม้ว่าประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนไม่ได้เข้าร่วมการประชุม แต่ก็ส่งคณะผู้แทนจีนไปเข้าร่วม ต่างจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ไม่เข้าร่วม และไม่มีแม้แต่คณะตัวแทน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่าโลกกำลังเผชิญกับ "ความล้มเหลวทางศีลธรรมและการละเลยร้ายแรง" หากรัฐบาลต่างๆ ไม่สามารถจำกัดภาวะโลกร้อนให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส
ด้านนายอังเดร กอร์เรอา ดู ลาโก นักการทูตบราซิลและประธาน Cop30 ได้กล่าวชื่นชมความก้าวหน้าของจีนในด้านเทคโนโลยีสีเขียว เมื่อเทียบกับประเทศร่ำรวยอื่นๆ ที่ได้สูญเสียความกระตือรือร้นในการแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศไปแล้ว
ขณะที่จีนเผยว่า จีนกำลังคิดค้นวิธีแก้ปัญหาที่ทุกคนหรือทุกประเทศสามารถทำได้จริง ไม่ใช่แค่จีนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จีนยังมีแนวโน้มที่จะพลาดเป้าหมายในการลดความเข้มข้นของคาร์บอน ซึ่งก็คือปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ระหว่างปี 2020 ถึง 2025 ซึ่งหมายความว่า หากจีนต้องการบรรลุเป้าหมายในปี 2030 ที่จะลดความเข้มข้นของคาร์บอนลง 65% เมื่อเทียบกับปี 2005 จะต้องดำเนินการลดปริมาณคาร์บอนให้มากขึ้นกว่าเดิม